นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้ sideway ไม่ไปไหนไกลรอผลประชุมเฟดคืนนี้ ถ้าปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ไม่มีผล ดัชนีคงไม่แกว่งตัวมาก บวก ลบ 5-10 จุด หุ้นที่เล่นเป็นหุ้นเดิมที่ชนะการประมูลโรงไฟฟ้าคือ GLOW HEMRAJ ที่เหลือคงอ่อนตัวลงมา
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลักยังเป็นเรื่องของ บมจ.ปตท. PTT วันศุกร์นี้ศาลจะตัดสินเป็นอย่างไร ตลาดคงจะแกว่งขึ้นลง ซึ่ง PTT เป็นเรื่องหลัก
"ตลาดเอเชียเช้านี้บวกเล็กน้อยจากหุ้นกลุ่มการเงินที่ขยับขึ้น แนะ selective buy เพราะคิดว่าอยู่ที่กรณีของ PTT คิดอย่างไร ขณะที่ราคาน้ำมันวันนี้ sideway ไม่น่าจะมีผลต่อตลาด" นายถนอมศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ วันนี้จะมีหุ้นน้องใหม่ บมจ.บอดี้ โกลฟ (ประเทศไทย)(BGT) เข้าเทรดวันแรก ที่ราคาไอพีโอ 4.70 บาท
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(10 ธ.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,727.03 จุด เพิ่มขึ้น 101.45 จุด(+0.74%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,515.96 จุด เพิ่มขึ้น 11.30 จุด(+0.75%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,718.95 จุด เพิ่มขึ้น 12.79 จุด (+0.47%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 437.37 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 87.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.42 ดอลลาร์
- บีโอไอประเมินอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน-พลังงานทดแทน หัวหอกสำคัญดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าไทยต่อเนื่องปี 2551 เฉพาะอีโคคาร์ 7 ราย ใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท เชื่อภายใน 5 ปีข้างหน้า การลงทุนผลิตรถประหยัดพลังงานและชิ้นส่วนยานยนต์ มูลค่าไม่ต่ำกว่าแสนล้าน ขณะที่อุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งปิโตรเคมี-เหล็ก-อิเล็กทรอนิกส์ จ่อคิวขยายลงทุน 'สาธิต' ตั้งเป้าขอรับส่งเสริมปีหน้ากว่า 6 แสนล้านบาท
- “ไพบูลย์" ยอมรับ 6 ปีกองทุนหมู่บ้านมีหนี้เสีย-ระบบบัญชีภาพลวงตา ส่งผลไม่สะท้อนฐานะแท้จริงกองทุน เร่งจัดระบบข้อมูลให้ตรงความจริงมากสุด ชี้การบริหารจัดการที่ดี สำคัญกว่าเพิ่มเงินกองทุน 'คลัง' รายงานผลดำเนินงานสิ้นเดือน ต.ค. ยอดค้างจ่ายเกือบ 6 หมื่นล้านบาท ขณะที่ สตง.พบบางกองทุนวิกฤติหนัก มีปัญหาเงินขาดบัญชี
- ภาคเอกชนชี้อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยสู่ยุคคลื่นลูกที่สาม เงินลงทุนไหลเข้ารอบใหม่ นับแสนล้านจากโครงการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงาน และรถจากโครงการอี 20 ขณะผู้ค้าห่วงโอเวอร์ซัพพลาย เหตุพิษเศรษฐกิจ และสัดส่วนถือครองรถคนไทยเริ่มสูงขึ้น
- “หม่อมอุ๋ย” เชื่อปีหน้าเศรษฐกิจจะไม่ดีอย่างที่หลายคนคิด เนื่องจากภาคส่งออกจะชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐ แนะทางรอดให้รัฐบาลชุดใหม่แม้จะมีอายุสั้นแค่ 1ปี-1 ปีครึ่ง ต้องเร่งกระตุ้นการลงทุนในประเทศ โดยต้องอนุมัติโครงการปิโตรเคมี 11 โครงการที่มีมูลค่าสูงถึง 160,000 ล้านบาท เร่งโครงการเมกะโปรเจกต์ โดยเฉพาะการก่อสร้างรถไฟฟ้า พัฒนาเซาเทิร์น ซีบอร์ด พัฒนาระบบโลจิสติกส์ทางน้ำและขนส่งระบบราง นอกจากนี้ยังต้องทำเรื่องหวยบนดินและกองทุนหมู่บ้านให้มีมาตรฐาน เพราะเกี่ยวข้องกับประชาชนในระดับรากหญ้า “ลิขิต” ระบุสายตาโลกมองไทยไม่ต่างจากพม่าหรือปากีสถาน หากไม่ทำให้ประชาธิปไตยฟื้นคืนมาอาจถูกบอยคอต ด้าน “ฉลองภพ” เตือนพรรคการเมืองอย่าเน้นนโยบายประชานิยม เพราะได้ผลระยะสั้นแต่สร้างปัญหาระยะยาว มั่นใจเศรษฐกิจปีหน้าโตได้ 5%
- สถาบันการเงินต่างชาติ 10 รายทั้งเวิลด์แบงก์ เอดีบี และธนาคารจากยุโรป ขอออกพันธบัตรสกุลเงินบาทหรือบาทบอนด์วงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาท อายุ 3 ปีขึ้นไป หวังกระจายความเสี่ยงและแหล่งระดมทุนจากยุโรป-อเมริกามายังประเทศแถบเอเชีย แจงนำเงินที่ระดมทุนได้ปล่อยกู้ให้แก่บริษัทจากชาติเดียวกันที่ทำธุรกิจในประเทศไทยและภูมิภาคนี้ คลังหวังบาทบอนด์มีอัตราอ้างอิงที่ดีและมีความเป็นสากลมากขึ้น อนุมัติหลักการแล้ว ผอ.สศค.ปลื้มความเชื่อมั่นคืนหนุนเศรษฐกิจไทยฟื้น
- "สมคิด" วาดฝันนโยบายเงินผันสมัยรัฐบาล "คึกฤทธิ์" กลับมาใช้แก้ปัญหาประเทศ ไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาชนบทให้เข้มแข็งชื่นชม "บุญชู โรจนเสถียร" นักการเมืองต้นแบบ เสียสละ ทำเพื่อประชาชน ประสบความสำเร็จจนร่ำรวย แล้วมาเล่นการเมืองเพื่อตอบแทนสังคมดึงภาคธุรกิจเข้าร่วมอย่างมีเป้าหมาย ไม่ใช่เข้ามาปกป้องผลประโยชน์ธุรกิจตัวเอง
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--