บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) แต่งตั้ง บล.พัฒนสิน เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ แกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน และเตรียมยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต.ภายใน ธ.ค.นี้ หวังระดมทุนเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนได้ภายในไตรมาส 2/51
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) คาดว่าจะสามารถยื่นแบบข้อมูลไฟลิ่งเพื่อการกระจายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO)ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ภายในเดือนธันวาคมนี้
"ขณะนี้ บริษัทฯ พร้อมแล้วที่จะเข้าจดทะเบียนเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ ซินเน็ค ( ประเทศไทย )ได้เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยขณะได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน" นายสุพันธุ์ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท มีโครงสร้างผู้ถือหุ้น ดังนี้ T.K.S. Enterprise Public Company Limited ถือหุ้น 50% , Synnex Technology International ถือหุ้น 49% และ ผู้ถือหุ้นอื่นๆ 1%
นายสุพันธุ์ กล่าวต่อว่า บริษัทจะกระจายหุ้นจำนวน 180 ล้านหุ้น แบ่งเป็น จำนวน 50 ล้านหุ้นจะให้สำหรับผู้ถือหุ้นเดิม คือ กลุ่มมงคลสุธี และ ซินเนค ไต้หวัน แต่เนื่องจากทั้ง 2 กลุ่มสละสิทธิ จึงจะให้สิทธิการจองซื้อดังกล่าวกับผู้ถือหุ้น TKS แทน
นอกจากนี้ จะจัดสรรให้กับพนักงานอีกประมาณ 25 ล้านหุ้น ในราคาต่ำกว่าราคาขาย IPO ทั่วไป 25% แต่จะต้องติดระยะเวลา Silent Period ตามข้อกำหนดก.ล.ต. ส่วนที่เหลือจึงจะกระจายให้กับนักลงทุนทั่วไป
"หุ้นของซินเนคได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาตเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะแบ่งขายให้ต่างชาติเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ จะแบ่งให้ผู้ถือหุ้นเดิม 50 ล้านหุ้น และพนักงานอีก 25 ล้านหุ้น" นายสุพันธุ์ กล่าว
ซินเน็คคาดว่าจะได้เม็ดเงินจากการระดมทุนครั้งประมาณ 600 -800 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปชำระหนี้กับสถาบันการเงินที่ส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะสั้นประมาณ 1 พันล้านบาทที่ใช้ในการซื้อสินค้า โดยหลังชำระแล้ว D/E ของบริษัทน่าจะต่ำกว่าปัจจุบัน 3 เท่า
"ถือว่าที่ 3 เท่าก็ต่ำกว่า D/E ของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ทั่วไป ที่อยู่ที่ประมาณ 4 เท่า" นายสุพันธุ์ กล่าว
ปัจจุบัน ราคา BooK Valued อยู่ที่ 1.77 บาท/หุ้น ที่ราคาพาร์ 1 บาท ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 500 ล้านบาท แต่หลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดจะเพิ่มเป็น 705 ล้านบาท
แม้ว่าเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นน่าจะส่งผลกระทบต่อ TKS ในด้านของมูลค่าของรายได้ที่จะปรับตัวลดลง จากการทำบัญชีแยกกัน หลังจากที่ผ่านมา TKS รับรู้รายได้จากซินเนค กว่า 90% แต่ก็ส่งผลดีที่ TKS จะมีความชัดเจนในหมวดธุรกิจที่จะแยกไปอยู่หมวดการพิมพ์ และ D/E ของ TKS จะอยู่ที่ 1.8 เท่า
สำหรับปี 51 ซินเน็คคาดว่ารายได้และกำไรจะโตได้ 10% จากปีนี้ โดยมีแผนจะเปิด SYNEX Shop 30-50 สาขา โดยลงทุนระบบและ Warehouse ราว 10-20 ล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาเป็นตัวแทนจำหน่าย Notebook อีก 1 ยี่ห้อ นอกเหนือจาก BEN-Q และ ASUS
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--