นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บมจ.พรีบิลท์ (PREB) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 65 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจหลักรับเหมาก่อสร้าง 60% อสังหาริมทรัพย์ 25% และ PCM ประมาณ 10%
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้(Backlog) อยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีแผนจะเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ โดยปัจจุบันได้รุกขยายไปยังโครงการอาคารสำนักงาน โรงแรม และโรงพยาบาล ซึ่งจะเน้นในส่วนของโครงการที่เป็นของหน่วยงานราชการมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีความสนใจที่จะลงทุนแตกไลน์ในธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าไปลงทุนร่วมพันธมิตร เพื่อดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ โดยสามารถต่อยอดธุรกิจหลักได้ ขณะเดียวกันยังมีความสนใจในธุรกิจอื่นที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพืชเศรษฐกิจ กัญชง กัญชา และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอีกด้วย
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 64 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 241.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ165 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 4,564.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 285.42 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 4,279.37 ล้านบาท
สาเหตุที่กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันรับรู้ยอดโอนจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในโครงการพรรณนา รวมทั้งบริษัทฯสามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ความสามารถทำกำไรมากขึ้น
"ในปี 64 แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19แต่บริษัทฯยังสามารถรักษาการทำกำไรไว้ได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยกลยุทธ์การบริหารงานที่สำคัญยังคงเน้นการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี" นายวิโรจน์กล่าว