(เพิ่มเติม) N-PARK เชื่อภาพพจน์ดีขึ้น-ดึง ตปท.มาร่วมพัฒนาโครงการหลังจ่ายคืนหนี้หมด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 11, 2007 16:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.แนเชอรัล พาร์ค (N-PARK) คาดว่าหลังจากบริษัทสามารถขายหุ้นในมือเพื่อนำมาชำระหนี้ก้อนใหญ่ที่มีกับธนาคารพาณิชย์ 2 แห่งได้ครบเรียบร้อยตามการอนุมัติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้ จะทำให้ความน่าเชื่อถือของบริษัทกลับคืนมา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการระดมทุนที่จะนำมาพัฒนาโครงการเพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทต่อไป แย้มขณะนี้มีต่างชาติแสดงความสนใจร่วมพัฒนาโครงการแล้ว
"ที่ผ่านมาเนื่องจากเรามีหนี้สินพะรุงพะรัง เวลาจะไปขอกู้เงินหรือหาคนมาร่วมทำโครงการ ค่อนข้างลำบาก เพราะขาดความน่าเชื่อถือ แต่หลังจากขายทรัพย์สินและมีเงินไปชำระคืนหนี้ เชื่อว่าภาพพจน์และเครดิตของบริษัทจะกลับมา ซึ่งขณะนี้มีต่างชาติสนใจจะเข้ามาพัฒนาโครงการ"นายเสริมสิน สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ N-PARK กล่าว
โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและการเตรียมงานของบริษัท ได้แก่ โครงการโรงแรมสยามและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ที่สยามารากอน ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปี 52 , โครงการโรงแรมอมันรีสอร์ท กทม.เป็นการร่วมมือระหว่าง N-PARK บริษัท อมันรีสอร์ท เซอร์วิส เซส ลิมิเต็ด และบริษัท ซิลเวอร์ลิงค์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด)อยู่ระหว่างการออกแบบและเตรียมการก่อสร้างคาดแล้วเสร็จในปี 53
โครงการโรงละครสยามโอเปร่า อยู่ระหว่างการหาแหล่งเงินกู้เพื่อพัฒนาโครงการส่วนที่เหลือ และ โครงการโนโวเทลบีช รีสอร์ช พันวา จ.ภูเก็ต เปิดดำเนินการแล้วบางส่วน และอยู่ระหว่างการก่อสร้างเพิ่มเติม คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากส่วนที่ก่อสร้างเพิ่มเติมในปี 52
ในวันนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น N-PARK มีมติอนุมัติให้บริษัทขายหลักทรัพย์ในมือ 5 บริษัทเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ธนาคารนครหลวงไทย(SCIB)และธนาคารกรุงไทย(KTB) ซึ่งคาดว่าจะได้เงินจากการขายหุ้นดังกล่าวประมาณ 2,317 ล้านบาท ขณะที่หนี้สินมีวงเงินประมาณ 1.75 พันล้านบาท จึงน่าจะเหลือเงินประมาณกว่า 560 ล้านบาทที่จะสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ เพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทต่อไป
หุ้นสามัญที่ได้รับการอนุมัติให้ขายตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 2 พ.ย.50 ได้แก่ บมจ. แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ (PA)208,739,547 หุ้น หรือคิดเป็น 62.50% , บมจ. รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) 820,260,000 หุ้น คิดเป็น 6.86%, บมจ. แสนสิริ (SIRI) 2,721,231 หุ้น คิดเป็น 4.26% , บมจ. ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น (SYNTEC) 190,000,000 หุ้น คิดเป็น 11.88% และหุ้น Aimtop Investments Limited (Aimtop) 6,100,010 หุ้น คิดเป็น 100%
"คาดว่าน่าจะขายหุ้น PA, Aimtop ได้เร็วกว่าตัวอื่น เนื่องจากขณะนี้มีผู้แสดงความสนใจเข้ามาแล้ว โดยคาดว่าจะได้เงินจากการขายหุ้นราว 2.3 พันล้านบาท ซึ่งพอใช้หนี้ที่มีกับธนาคารนครหลวงไทยและธนาคารกรุงไทยได้หมด และจะนำเงินที่เหลือไปทำโครงการต่อ" แหล่งข่าว กล่าว
อนึ่ง บริษัทยังมีหนี้ที่เหลือ กับ SCIB จำนวน 790.67 ล้านบาท และ KTB จำนวน 985.55 ล้านบาท
สำหรับหนี้กับทาง SCIB จำนวน 790.67 ล้านบาทนั้น บริษัทค้างชำระตั้งแต่ 15 ต.ค.50 ซึ่ง SCIB ได้ยอมผ่อนผันเวลาชำระคืนให้จนถึงสิ้นปีนี้
"หลังจากนี้คงจะมีการเจรจากับเจ้าหนี้อีกเพื่อให้ทราบว่าทางเรามีความคืบหน้าอย่างไร ซึ่งหากเจ้าหนี้ทราบว่าผู้ถือหุ้นเห็นชอบให้ขายทรัพย์สินในมือแล้ว ก็น่าที่จะเห็นความชัดเจนของโอกาสที่เราจะจ่ายคืนหนี้มากขึ้น ส่วนแบงก์จะว่าอย่างไรต่อไปก็ค่อยมาดูกันอีกที"แหล่งข่าว กล่าว
สำหรับกรณีที่ทาง บมจ.ช.การช่าง(CK)แสดงความสนใจที่จะซื้อหุ้น BMCL จากบริษัทนั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเจรจารายละเอียดด้วย หาก CK มีความสนใจจริง ๆ โดยบริษัทกำหนดว่าจะขายหุ้น BMCL ไม่ต่ำกว่า 0.79 บาท/หุ้น ขณะที่ราคาเทรดปัจจุบันอยู่ที่ 1.04 บาท/หุ้น
นอกจากนี้ ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้ยังรับทราบถึงความคืบหน้าคดีที่บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษายกฟ้องของศาลล้มละลายกลางที่ให้จำหน่ายคดีฟื้นฟูกิจการออกจากสารบบความต่อศาลฎีกา ว่า ศาลได้นัดฟังคำตัดสินในวันที่ 22 ม.ค.51
ในประเด็นนี้ มีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งได้เสนอให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยร่วมกับบริษัทฟ้องกลับบริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต เนื่องจากเห็นว่าแม้ N-PARK จะเคยเป็นลูกหนี้ด้วยมูลหนี้หุ้นกู้ 200 ล้านบาท แต่บริษัทก็ได้มีการแปลงหนี้เป็นทุนโดยออกหุ้นใหม่เพื่อชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งไทยสมุทรฯรับหุ้นไป 27 ล้านหุ้น เมื่อ 21 ส.ค.45 เรื่องราวน่าจะจบลง แต่ไทยสมุทรฯ ก็ยังยื่นคำร้องและยื่นอุทธรณ์ต่อศาลมาจนถึงวันนี้
"ผมอยากเสนอผู้ถือหุ้นรายย่อยช่วยกันลงขัน และร่วมกับบริษัทฟ้องกลับไทยสมุทรฯ ฐานไม่ยอมลดราวาศอก เรื่องฟ้องล้มละลายบริษัทในมูลหนี้หุ้นกู้ 200 ล้านบาท ทั้งที่ได้รับการแปลงหนี้เป็นทุนไปแล้วตั้ง 27 ล้านหุ้น ซึ่งตอนนี้เหลือ 5 ล้านหุ้น แสดงว่าได้มีการขายบางส่วนออกไปแล้วด้วย ก็น่าจะจบไปแล้ว แล้วยังจะมาฟ้องเอาอะไรกับบริษัทอีก"ผู้ถือหุ้น กล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารระบุเพียงว่าจะนำข้อคิดเห็นดังกล่าวของผู้ถือหุ้นกลับไปหารือกับฝ่ายกฎหมายก่อน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ