TMB ตั้งเป้าปี 51 ขาย NPA หมื่นลบ.จากสิ้นปีคาดเหลือ 2 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 6, 2007 16:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสุภัค ศิวะรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ในปี 51 ธนาคารตั้งเป้าขายสินทรัพย์รอการขาย(NPA) จำนวน 1 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปี 50 ที่คาดจะเหลือ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้สัดส่วน NPA ต่อสินทรัพย์เหลือต่ำกว่า 2% จากปัจจุบันที่ 3% 
และคาดว่า ณ สิ้นปี 50 จะขาย NPA ได้ประมาณ 7-8 พันล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ 9 พัน - 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ซบเซา และ ธนาคารอื่นก็มีการนำ NPA ออกมาขายเช่นเดียวกัน โดยขณะนี้ TMB ขายได้แล้ว 5-6 พันล้านบาท ซึ่งธนาคารขายเอง 4-5 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือขายให้กับ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด(บสก.)
"ในช่วงนี้คงจะเป็นการเร่งจำหน่ายให้กับรายย่อย คงไม่มีการขายให้กับบสก.ในปีนี้ เพราะขายต่ำกว่าทุนไปแล้ว" นายสุภัค กล่าว
ในวันนี้ ธนาคารได้จัดงาน TMB NPA SALE มหกรรมบ้านและที่ดินธนาคาร มี NPA จำนวนทั้งหมด 656 รายการ มูลค่า 1,651.70 ล้านบาท และยังมีสินทรัพย์ราคาพิเศษ จากบริษัทบริหารสินทรัพย์(บบส.) พญาไท จำนวน 36 รายการ มูลค่ารวม 447 ล้านบาท เข้าร่วมจัดรายการ โดยธนาคารจะพิจารณามอบสินเชื่อพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินทรัพย์ในงาน โดยได้วงเงินกู้สูงสุด 90%ของราคาซื้อขาย แต่ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินในกรณีซื้อขายไม่เกิน 10 ล้านบาท คิดอัตรา 0%ในปีแรก และปีที่ 2 -3 คิดอัตรา MLR-2% และปีที่ 4 MLR-1% โดยปัจจุบัน MLR ของ TMB อยู่ที่ 7.12%
*สิ้นปี 50 Gross NPL เพิ่มมากกว่า 13%
นายสุภัค กล่าวว่า สำหรับหนี้สินไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ สิ้นปี 50 คาด Gross NPL คงเพิ่มขึ้น จากสิ้นไตรมาส 3 อยู่ที่ 13% อย่างไรก็ดี NPL ที่เพิ่มขึ้นมาในไตรมาส 4 เป็นการจัดชั้นสินเชื่อเชิงคุณภาพ ซึ่งทำให้ธนาคารตั้งสำรองเพิ่มขึ้นอีก 2.5 หมื่นล้านบาท
แต่ Net NPL ของธนาคารในสิ้นปี 50 จะลดลงจากปัจจุบัน 7% เพราะได้ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น สำหรับในปีหน้าธนาคารจะตั้งสำรองปกติของธุรกิจ
"ปีนี้อาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะเราพยายามตั้งสำรองให้เยอะเพื่อรองรับอนาคตที่ดีกว่า" นายสุภัค กล่าว
ส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมของธนาคาร ปัจจุบันมีอัตราเติบโต 25% คาดว่าสิ้นปี 50 จะมีอัตราเติบโตเกินกว่า 25% เนื่องจากไตรมาส 4 ธุรกิจท่องเที่ยวจะมีการขยายที่ดี ซึ่งจะมีรายได้ค่าธรรมเนียมปริวรรตเงินตรา
นายสุภัค มองแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 51 ว่าคงจะเป็นเรื่องท้าทายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เนื่องจากหลายฝ่ายคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัว ทำให้ดอลลลาร์อ่อนค่า ขณะที่ เศรษฐกิจในประเทศ ธปท.เป็นห่วงอัตราเงินเฟ้อที่อาจจะสูงจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจากนี้ไปจนถึงกลางปีหน้า ธปท.คงจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยอีก
"ตามความเข้าใจของผม คิดดว่าแบงก์ชาติน่าจะมองเรื่องเงินเฟ้อเป็นหลัก ส่วนเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นเรื่องรองลงมา และคิดว่าน่าจะเป็นหน้าที่กระทรวงการคลังมากกว่า" กรรมการผู้จัดการใหญ่ TMB กล่าว
ทั้งนี้ นายสุภัคคาดว่า หลังกลางปีหน้า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้น ซึ่งถ้าเศรษฐกิจฟื้นตัวและการเมืองชัดเจน เชื่อว่า ทั้งปี 51 คาดว่าธปท.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 0.25% เช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์
"แบงก์พาณิชย์จะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ ต้องดูที่สภาพคล่องเป็นหลัก ส่วนตัวผมคิดว่าสภาพคล่องในปีหน้ายังดีอยู่ เพราะจากนี้ไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้ายังเป็นช่วงการท่องเที่ยว เพราะฉะนั้น เราก็ยังเกินดุล ขณะที่ในเดือนมกราคม จะเป็นช่วงปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ ดังนั้นก็จะมีเงินไหลเข้ามาในประเทศจำนวนมาก" นายสุภัค กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ