ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดบวกในวันนี้ (3 ธ.ค.) หลังเคลื่อนไหวอย่างผันผวนตลอดช่วงการซื้อขาย โดยในช่วงเช้ามีแรงซื้อเข้ามามากเนื่องจากมีความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนหน้า แต่ในช่วงท้ายของการซื้อขายกลับมีการเทขายทำกำไรอย่างหนักหน่วง
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ขยับขึ้น 0.29 จุด หรือ 0.01% ปิดแตะระดับต่ำสุดของวันที่ 3,521.56 จุด หลังแตะระดับสูงสุดที่ 3,570.75 ในช่วงเช้า โดยมีปริมาณการซื้อขาย 1.5 พันล้านหุ้น มูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
"ปริมาณการซื้อขายมีน้อยเกินไปทำให้ไม่มีแรงซื้อตามเข้ามา ส่งผลให้ดัชนีสเตรทส์ไทม์ไม่สามารถปรับเพิ่มต่อไปได้" นาจี๊บ จาร์ฮอม หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดค้าปลีกของ Fraser Securities กล่าว
ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปรับเพิ่มกว่า 150 จุดในช่วงสองวันทำการที่ผ่านมา เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลงเป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐมิให้ซบเซาไปมากกว่านี้
หุ้นกลุ่มธนาคารส่วนมากบวกขึ้น หลังมูลค่าการปล่อยกู้เดือนต.ค.ขยายตัว 15.5% เป็น 2.24 แสนล้านดอลลาร์สิงคโปร์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่ยอดการปล่อยกู้เกิดขึ้นในภาคการสร้างบ้านและการก่อสร้าง นับเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 10 ปี
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ธุรกิจปล่อยกู้ที่แข็งแกร่งจะช่วยชดเชยหนี้สูญและความเสียหายที่เกิดจากวิกฤติซับไพรม์ในสหรัฐ
หุ้นดีบีเอสกรุ๊ป ทะยาน 30 เซนต์สิงคโปร์, หุ้นยูโอบี บวก 10 เซนต์ และ หุ้นโอซีบีซี ขยับลง 5 เซนต์ โดยบริษัท DBS Vickers และ BNP Paribas ยังคงจัดอันดับความน่าลงทุนให้กับภาคการธนาคารของสิงคโปร์ไว้ที่ระดับ "overweight"
ในหุ้นกลุ่มบลูชิป หุ้นสิงคโปร์เทเลคอม ลดลง 12 เซนต์, หุ้นเอสที เอ็นจิเนียริ่ง ลดลง 8 เซนต์ และ หุ้นสิงคโปร์แอร์ไลน์ ลดลง 20 เซนต์
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลดลงเกือบทั้งหมด โดยหุ้นแคปปิตอลแลนด์ ขยับลง 5 เซนต์ และ หุ้นซิตี้ เดเวลอปเมนท์ ร่วง 30 เซนต์ ในขณะที่หุ้นเคปเพลแลนด์ยังทรงตัว
หุ้นคอสโคคอร์ป (สิงคโปร์) ร่วง 40 เซนต์ หลังถูกเทขายทำกำไรอย่างหนัก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--