TMB มั่นใจจ่ายดอกเบี้ยไฮบริดฯได้งวดก.ค.51 หลังเพิ่มทุนพลิกมีกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday December 15, 2007 10:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

               นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  ธนาคารทหารไทย   กล่วว่า ธนาคารมั่นใจจะสามารถจ่ายดอกเบี้ยแก่ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ((Hybrid Tier 1)  ในงวด ก.ค.51 เพราะเห็นว่าหลังธนาคารเพิ่มทุนแล้ว และตั้งสำรองตามเกณฑ์คุณภาพ คาดว่าธนาคารจะกลับมามีกำไร         
"งวดกรกฎาคม ปี 51 ผมมั่นใจธนาคารจะสามารถจ่ายดอกเบี้ย Hybrid Tier 1 ให้กับผู้ลงทุนได้ เพราะถึงตอนนั้น ธนาคารคงมีกำไรแล้ว" นายสุภัค กล่าว
สำหรับงวด ม.ค. 51 ที่ ธนาคารยังไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ ทั้งที่บริษัทพร้อมจ่าย จำนวนเงิน 200 ล้านบาท แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ไม่อนุญาต เนื่องจากว่าผลการดำเนินงานของะนาคารยังขาดทุนอยู่ ดังนั้น ธนาคารถือว่าไม่ได้ผิดนัด แต่อยู่ในเงื่อนไจขที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้
สวนกรณีการตั้งสำรองตามเกณฑ์ บาเซิล 2 นายสุภัค คาดว่าจะกระทบเงินกองทุนบีไอเอสของธนาคารในปีหน้าไม่มากประมาณ 0.6-1% โดยจะกระทบด้านความเสี่ยงการปฏิบัติการ ทั้งนี้หลังการเพิ่มทุน เงินกองทุนบีไอเอสของธนาคารอยู่ที่ระดับ 12%
"สำหรับเกณฑ์ใหม่เราได้เตรียมพร้อมตั้งสำรองเผื่อไว้แล้ว ซึ่งมองว่าไม่น่ากระทบเงินกองทุนสักเท่าไหร่ ถ้าจะกระทบก็จะกระทบด้านปฏิบัติการ" นายสุภัคกล่าว
*ปีหน้ารุกขยายสินเชื่อ SME- รายย่อย
ส่วนแผนงานในปี 51 ธนาคารจะมุ่งเน้นขยายสินเชื่อรายย่อย และ เอสเอ็มอี รงมทั้งขยายฐานรายได้ ซึ่งเมื่อธนาคารมีพันธมิตรใหม่คือ ไอเอ็นจี ซึ่งเชือว่าจะช่วยขยายธุรกิจเหล่านี้ได้ รวมถึงวิธีการบริหารความเสี่ยง และด้านเทคโนโลยี
สำหรับเป้าสินเชื่อในปีหน้า อยู่ระหว่างการพิจารณาและสรุปแผน โดยคาดว่า อัตราเติบโตของสินเชื่อจะดีกว่าปีนี้ เพราะปีหน้ามองว่าจีดีพีจะโต 4% แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องราคาน้ำมันสูงขึ้น และบาทแข็งค่าจากเงินดอลลลาร์อ่อนตัวลง รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมือง ประกอบกับ ปี 50 ธนาคารค่อนข้างระมัระวังในการปล่อยสินเชื่อมาก เพราะนโยบายลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) และปรับพอร์ตสินเชื่อ 5-6 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าเมื่อธนาคารหันมาเน้นรายย่อยและเอสเอ็มอีในปีหน้า สัดส่วนพอร์ตสินเชื่อรายย่อยจะเพิ่มเป็น 17-18 %จาก 15% ในปัจจุบัน ส่วนสัดส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอีคาดเพิ่มเป็น 50% จาก 48%ในปีนี้ และสินเชื่อรายใหญ่ คาดปีหน้าจะลดเหลือ 36%
สำหรับ NPL ในไตรมาส 3/50 อยู่ที่ 12% สิ้นปีคาดว่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการจัดขั้นคุณภาพใหม่ รวมทั้งมีการตั้งสำรองใหม่หลังได้หารือกับกลุ่มไอเอ็นจีที่เข้ามาเป็นพันธมิตรใหม่
ฉะนั้นในปีหน้าในส่วน NPL จะเร่งปรับโครงสร้างหนี้ โดยสัดส่วนครึ่งหนึ่งยังมีการจ่ายดอกเบี้ย ส่วนที่เหลือหากไม่มีการชำระก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของศาล และยึดหลักประกัน
ในส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเติบโตปีละประมาณ 25% คาดว่าปีหน้าเติบโตในระดับเดียวกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ