เข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ของเหตุการณ์สู้รบกันระหว่างรัสเซียและยูเครน แม้ว่าจะมีบางช่วงจะประกาศยุติการสู้รบชั่วคราวเพื่อลำเลียงประชาชนออกจากพื้นที่สงคราม รวมถึงตั้งโต๊ะเจรจงสันติภาพเป็นระยะ แต่ภาพรวมของสถานการณ์ความขัดแย้งยังคงส่งสัญญาณยืดเยื้อและร้อนระอุขึ้นเป็นลำดับ ลุกลามกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงสร้างความไม่แน่นอนต่อทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่กังวลถึงโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง หลังจากรัสเซียถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากชาติฝั่งตะวันตก ซ้ำเติมความบอบช้ำจากวิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโลกตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา
ผลกระทบดังกล่าวกระทบกับความเชื่อของนักลงทุนในตลาดทุนและตลาดการเงินทั่วโลก สวนทางสินค้าโภคภัณฑ์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบที่มีผลวิจัยฯของสำนักวิเคราะห์ชั้นนำต่างชาติที่คาดการณ์ว่าในระยะสั้นๆ มีโอกาสลุ้นดีดตัวขึ้นแรงไปถึง 150-200 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ช่วงเช้าวันนี้ (7 มี.ค.65) ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการ บล.เคทีบีเอสที (KTBST) ฉายภาพของ "ฉากทัศน์" ประเมินความเป็นไปได้ในมิติต่างๆ ของบทสรุปวิกฤติสงครามรัสเซียและยูเครนครั้งนี้จะสามารถจบลงได้เร็วเหมือนกับที่หลายๆ คนคาดหวังกันได้หรือไม่ หรืออาจจะกลายเป็นซีรี่ย์หนังเรื่องยาว ยกระดับการโจมตีรุนแรงและยืดเยื้อถึงขั้นกลายเป็นสงครามโลกครั้งใหม่ที่ทุกๆคนคงไม่อยากให้เกิดขึ้น
การวางหมากกลยุทธ์การลงทุนของนักลงทุนรายย่อยต้องปรับพอร์ตรับมือกับวิกฤตินี้อย่างไร หุ้นที่ควรหลีกเลี่ยงหรือหุ้นที่น่าเก็บเข้าพอร์ต เปิดโอกาสรับผลตอบแทนในยามวิกฤติเช่นนี้จะมีตัวไหนกันบ้าง ??
https://youtu.be/j9U6MGxWSvk