นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ซีฟโก้ (SEAFCO) เปิดเผยว่า บริษัทยอมรับว่าคงต้องลุ้นว่าผลประกอบการทั้งปีจะมีกำไรหรือไม่ หลังจากปีก่อนบริษัทมีผลขาดทุนราว 56.64 ล้านบาท โดยยังต้องติดตามปริมาณงานในปีนี้ว่าจะมีปริมาณมากตามที่คาดไว้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าในครึ่งปีหลังจะมีกำไรแน่นอน เนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ และ โครงการของเอกชนจะทยอยออกมาเพิ่มมากขึ้น จะหนุนให้อัตราการใช้เครื่องจักรเพิ่มขึ้นเป็น 75-80% จากปัจจุบันอัตราการใช้เครื่องจักรอยู่ 40-50%
"เรายังคงต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่อง เพราะอาจจะเข้ามากระทบกับงานที่จะออกมาได้ ซึ้งผลขาดทุนของบริษัทส่วนใหญ่มาจาก ค่าเสื่อมของเครื่องจักรที่มีอยู่มาก แต่อย่างไรก็ตามหากอัตราการใช้เครื่องจักรกลับมาอยู่ที่ระดับ 75-80% บริษัทก็จะสามารถสร้องผลกำไรได้"นายณรงค์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 65 ไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้ 1,476.79 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่ารวม 1,113.46 ล้านบาท ประกอบด้วย งานที่รวมค่าแรง 996.80 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 90% ของงานในมือ และในส่วนที่เหลืออีกราว 10% เป็นสัดส่วนของเฉพาะค่าแรง มูลค่า 116.67 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถส่งมอบและรับรู้เข้ามาเป้นรายได้ทั้งหมดในปี 65
นายณรงค์ กล่าวว่า ทิศทางของธุรกิจฟื้นตัวได้ดีขึ้นเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน แม้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงมีอยู่ แต่ด้วยความรุนแรงของโรคลดน้อยลง รวมถึงผู้ประกอบการเริ่มกลับมาปรับตัวรับมือได้แล้ว ทำให้คาดว่าจะมีโครงการลงทุนใหม่ๆ ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชนที่เคยอัดอั้นในปีก่อนทยอยออกมาในปีนี้เพิ่มมากขึ้น
พร้อมกันนี้บริษัทยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64-18 ก.พ. 65 บริษัทได้มีการประมูลงานกว่า 137 โครงการ มูลค่ารวม 12,023 ล้านบาท แบ่งเป็นภาคเอกชน 87 โครงการ มูลค่า 4,986 ล้านบาท และภาครัฐ 50 โครงการ มูลค่า 7,037 ล้านบาท โดยทยอยประกาศผลไปแล้วราว 2,140 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้รับงานมาแล้ว 956 ล้านบาท