นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี(PTG) เปิดเผยว่า บริษัทกำหนดแผนธุรกิจ 5 ปีมีเป้าหมายทรานฟอร์มธุรกิจจาก Oil และ Non-oil ไปเป็นธุรกิจ Co-Create Ecosystem เชื่อมให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ "อยู่ดี มีสุข" ในทุกด้านของช่วงชีวิตและให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน
ธุรกิจหลักที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโต ประกอบด้วย 8 ธุรกิจ คือ (1) ธุรกิจน้ำมันและก๊าซ (2) ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (3) ธุรกิจ Retail แบบ Offline to Online (4) ธุรกิจขับเคลื่อนยานยนต์โลจิสติกส์และซัพพลายเชน (5) ธุรกิจซ่อมบำรุง (6) ธุรกิจสุขภาพทั้งกายและใจเพื่อรองรับสังคมสูงวัย (7) ธุรกิจ Digital Platform ทั้งการเงินและ Lifestyle และ (8)พลังงานหมุนเวียน พลังงานสะอาด
"ธุรกิจเหล่านี้เป็น"เมกะเทรนด์" ของโลกในอนาคต และเป็นธุรกิจที่จะสนับสนุนให้กำไรจากธุรกิจ Non-oil เพิ่มขึ้นเป็น 50% ในปี 69 และจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเดิมของ PT แข็งแรงขึ้น ลูกค้าของเรา มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผ่านการใช้สินค้าและบริการภายใต้เครือข่ายของพีทีทั้งพันธมิตรจากภายในและภายนอก ภายใต้รูปแบบการบริหารสร้างเครือข่าย Co-Created Ecosystem และเพื่อให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนสำหรับธุรกิจ Non-oil ปีละประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท" นายพิทักษ์ กล่าว
ขณะที่ บริษัท แมกซ์เวนเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ จะเป็นกลไกขับเคลื่อนการลงทุนในระยะกลางและยาว ด้วยการเข้าไปลงทุนในโปรเจ็คต์ต่างๆ เช่น Nex Pharma, Pavitree พาทัวร์ และลงทุนใน 360Truck ซึ่งเป็น Platform สำหรับ match รถบรรทุกที่ว่างกับผู้ที่ต้องการว่าจ้างงาน ซึ่งจุดมุ่งหวังเรามองถึงการเติบโตของ Platform นี้ จะทำให้ Max World แข็งแรงขึ้นและเป็น Enabler ที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆที่กล่าวมาเติบโตขึ้นรวมถึงสร้าง New Business ให้กับบริษัท
สำหรับเป้าหมายธุรกิจปีนี้ บริษัทคาดว่าอัตราการเติบโตของ EBITDA จะอยู่ที่ประมาณ 15-20% โดยคาดว่า ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันที่คาดว่ายังเติบโต 8-12% จากสิ้นปีก่อนปริมาณจำหน่ายน้ำมันอยู่ที่ 5,020 ล้านลิตร