นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทรีนีตี้ วัฒนา (TNITY) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 65 บริษัทคาดว่าธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Brokerage) จะมีรายได้ค่านายหน้าใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์รวมต่อวันของตลาดหลักทรัพย์จะอยู่ที่สูงกว่า 90,000 ล้านบาท ใกล้เคียงหรือสูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 93,846 ล้านบาทเล็กน้อย
ขณะที่รายได้จากดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ คาดเติบโตกว่าปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากธุรกรรมการให้สินเชื่อยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่วนธุรกิจวาณิชธนกิจ (Investment Banking) ก็น่าจะดีกว่าปีก่อน เนื่องจากมีงานที่ปรึกษาการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ( IPO) เข้ามามากขึ้น
แต่ธุรกิจที่ยังคาดการณ์ได้ยาก คือ Investment เนื่องจากภาวะตลาดมีความผันผวนสูง
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่มีความท้าทายของธุรกิจหลักทรัพย์ จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และปัจจัยอื่น ๆ หลายด้าน รวมถึงความเสี่ยงจากปัญหาเชิงภูมิรัฐศาสตร์ของโลก แต่บริษัทก็มีเป้าหมายที่จะส่งมอบผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจ Wealth Management ตั้งเป้ามีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) เติบโตเป็น 5,300 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงาน IPO ในมือราว 8-10 ดีล ครอบคลุมกลุ่มเกษตร, อาหารและเครื่องดื่ม, Transportation & Logistics, Commerce, Media & Publishing, Property Development, Industrial Materials & Machine เพื่อเข้าจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) และ เอ็ม เอ ไอ (mai) รวมถึงมีงานที่ปรึกษาทางการเงินในการทำ M&A จำนวน 4-5 ดีล และยังมีงานผู้จัดการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 4-6 ดีล ในกลุ่ม Finance & Securities และ Insurance
สำหรับความคืบหน้าการขยายธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการขอใบอนุญาต ทั้ง ICO Portal, ผู้ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset & Advisory Service) และการหาพันธมิตร โดยบริษัทจะขยายไปสู่การเป็นผู้แนะนำนักลงทุนให้กับศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์สินทรัพย์ดิจิทัลของ บริษัท บิท คับ ออนไลน์ จำกัด, พัฒนาแพลตฟอร์มกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) ให้เข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล และ ICO Portal รวมไปถึงที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset & Advisory Service)