ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กกระแสคาดเฟดลดดบ. ดันดาวโจนส์ปิดพุ่ง 101.45 จุด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ดัชนีคาดการณ์ยอดขายบ้านในสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนต.ค.ได้ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องปัญหาในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์)
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 101.45 จุด หรือ 0.74% แตะระดับ 13,727.03 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 11.30 จุด หรือ 0.75% แตะระดับ 1,515.96 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดดีดขึ้น 12.79 จุด หรือ 0.47% แตะระดับ 2,718.95 จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.17 พันล้านหุ้น เมื่อเทียบกับวันศุกร์ที่ 1.20 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วนกว่า 2 ต่อ 1 
          นายโดนัลด์ เซลคิน นักวิเคราะห์จากบริษัทโยเซฟ สตีเฟ่นส์กล่าวว่า "นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมวันที่ 11 ธ.ค.นี้ และข้อมูลจากสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐที่ระบุว่า ดัชนีคาดการณ์ยอดขายบ้านในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ได้ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องปัญหาในตลาดซับไพรม์"
          เมื่อวานนี้ ยูบีเอสซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ของสวิตเซอร์แลนด์เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมตัดบัญชีหนี้สูญมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์เนื่องจากขาดทุนในตลาดซับไพรม์ ซึ่งอาจทำให้ผลประกอบการตลอดปี 2550 ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม หุ้นยูบีเอสทะยานขึ้น 2.2% หลังจากธนาคารเปิดเผยแผนระดมเงินสดมูลค่า 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์จากรัฐบาลสิงคโปร์และนักลงทุนจากตะวันออกกลาง
          "หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นเพราะข่าวการระดมทุนของยูบีเอส เรามองว่าหุ้นกลุ่มการเงินเริ่มปรับตัวกับข่าวการขาดทุนของวาณิชธนกิจและธนาคารบางแห่งได้บ้างแล้ว" นายเซลคินกล่าว
          การประกาศตัดบัญชีหนี้สูญของยูบีเอสมีขึ้นก่อนที่วาณิชธนกิจเลห์แมน บราเธอร์ส จะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดี ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ มอร์แกน สแตนลีย์ และแบร์ สเติร์นส์ จะเปิดเผยในสัปดาห์หน้า
          ทั้งนี้ หุ้นคาร์เตอร์พิลลาร์ ปิดพุ่งขึ้น 3.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของแบร์ สเติร์นส์กล่าวว่า ความต้องการอุปกรณ์ด้านการก่อสร้างและการเกษตรที่แข็งแกร่งในประเทศจีน จะทำให้ยอดขายของคาร์เตอร์พิลลาร์พุ่งขึ้นด้วย   
          ส่วนหุ้นแมคโดนัลด์ดีดขึ้น 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 8.2% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยอดขายในต่างประเทศ รวมถึงทวีปเอเชียและยุโรป
          หุ้นแบล็คสโตนดีดขึ้น 6.9% และหุ้นรีโอ ทินโต พุ่งขึ้น 2.1% หลังจากหนังสือพิมพ์เดลี เทเลกราฟของอังกฤษรายงานข่าวว่า แบล็คสโตนอาจเสนอซื้อกิจการรีโอ ทินโต