หุ้น CPF-GFPT ปรับตัวขึ้นรับข่าวประเทศซาอุดิอาระเบียไฟเขียวการนำเข้าเนื้อไก่จากไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี โดยเมื่อเวลา 9.59 น. CPF เพิ่มขึ้น 3.35% หรือ ปรับขึ้น 0.80 บาท มาที่ 24.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 153.81 ล้านบาท
GFPT ปรับขึ้น 3.91% หรือ เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มาที่ 13.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 86.10 ล้านบาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่าจากข่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่ารัฐบาลซาอุดิ อาระเบีย ได้เปลี่ยนสถานะการนำเข้าไก่จากประเทศไทยจากเดิมที่ "ห้ามนำเข้า" เป็น "อนุญาต" ให้นำเข้าได้ ซึ่งประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งจะทำให้โรงงานผลิตเนื้อไก่ 11 แห่งของไทยสามารถส่งออกไปยังซาอุดิอาระเบียได้ ประเมินจะได้รับผลบวกโดยตรงจำกัดในระยะสั้น
ถึงแม้ว่าข่าวนี้จะแสดงถึงโอกาสที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมไก่ไทย แต่เราคิดว่าผลบวกในระยะสั้นน่าจะยังจำกัดอยู่ เนื่องจากสถานการณ์การแข่งขันในตลาด ซึ่ง บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ระบุว่ากรณีนี้จะช่วยเปิดตลาดใหม่ให้กับผู้ผลิตไก่ไทย แต่คู่แข่งที่สำคัญ (บราซิล) ยังมีความได้เปรียบทางการแข่งขันในแง่ของต้นทุนอาหารสัตว์ที่ต่ำกว่า เนื่องจากบราซิลเป็นผู้ผลิตถั่วเหลืองและข้าวโพดรายใหญ่
ขณะเดียวกัน บมจ.จีเอฟพีที (GFPT) บอกว่าบริษัทไม่น่าจะได้รับผลบวกโดยตรงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะซาอุดิอาระเบียนำเข้าเนื้อไก่ดิบเป็นหลัก ในขณะที่สินค้าส่งออกของ GFPT เน้นไปที่ไก่แปรรูป อย่างไรก็ตาม ยังอาจจะมีผลบวกทางอ้อมหากการส่งออกไก่เพิ่มขึ้น จะทำให้อุปทานสำหรับตลาดในประเทศลดลง ซึ่งในกรณีนี้น่าจะทำให้ราคาไก่ในประเทศขยับสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ถือเป็นโอกาสดีสำหรับอุตสาหกรรมไก่ไทยในระยะยาว เพราะซาอุดิอาระเบีย เป็นประเทศผู้นำเข้าเนื้อไก่ที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของโลก โดยนำเข้าไก่ถึง 600,000 ตันในปี 2564 ในปัจจุบันประเทศหลักส่งออกไก่ไปที่ซาอุดิอาระเบียคือบราซิล (70%) และยูเครน และฝรั่งเศส (รวมกัน 30%) ในขณะที่ประเทศไทยส่งออกผลิตภัณฑ์จากไก่รวม 913,000 ตันในปี 2564 ทั้งนี้ ในบรรดา 11 โรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกเนื้อไก่ไปซาอุดิ อาระเบียได้นั้น มี 6 โรงงานจากเครือ CPF และอีกหนึ่งโรงงานจาก GFPT
ยังคงคำแนะนำซื้อ CPF เนื่องจากเราคาดว่าราคาเนื้อสัตว์ในประเทศที่ขยับเพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทในปี 2565F ในขณะเดียวกัน CPF ยังน่าจะฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ในแง่ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ โควิด-19 ซึ่งน่าจะลดลง และปัญหาขาดแคลนแรงงานที่คลี่คลายลงไป
ขณะเดียวกัน เรายังคงคำแนะนำถือ GFPT เนื่องจากเรายังคงเป็นกังวลกับ GPM ของบริษัท ในขณะที่ GFPT ดูเหมือนจะมีสามารถจำกัดในการส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปให้ลูกค้า ทั้งนี้ เรากำลังประเมินผลกระทบจากการที่ต้นทุนอาหารสัตว์สูงเกินคาดอันเป็นผลจากกรณีพิพาทรัสเซีย-ยูเครนต่อราคาเนื้อสัตว์ และ margin ของผู้ผลิตเนื้อสัตว์