เป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในโหมดเฝ้าระวังและลดความเสี่ยง เพราะนอกเหนือจากปัญหาความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครนที่ยังไร้ข้อสรุป รวมถึงการหวนกลับมาแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ในประเทศจีน ส่งผลให้ทางการตัดสินใจสั่งล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นอย่างน้อย 1 สัปดาห์ระหว่างวันที่ 13-20 มี.ค.แล้ว ยังมีอีกปัจจัยที่นักลงทุนหันมาสนใจมากขึ้น นั่นก็คือแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เริ่มต้นประชุมนัดที่ 2 ของปีวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ คาดเดากันว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.61 เพื่อสกัดอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามต้นทุนราคาราคาน้ำมันในตลาดโลก
"Wealth Me Please" สัปดาห์นี้จะไปเจาะลึกข้อมูลแหล่งพักเม็ดเงินของนักลงทุนทั่วโลก เพื่อรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในยุคสงครามรัสเซียและยูเครนว่าจะปรับขึ้นเร็วและแรงกว่าที่คาดไว้จนเป็นปัจจัยซ้ำเติมสร้างความเสียหายต่อภาวะเศรษฐกิจในระยะถัดไปหรือไม่ และโอกาสเกิดปรากฎการณ์ "Stagflation" หรือเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยขณะที่ราคาน้ำมันดีดตัวแรงพร้อมกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย ไปหาคำตอบกับนายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคารทิสโก้
ทั้งนี้ รายการ "Wealth Me Please" จะนำข้อมูลความรู้ด้านการเงินและการลงทุน ผ่านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญหลายๆท่านนำมาต่อยอดช่วยสร้างความมั่งคั่งได้ด้วยตัวเอง พบกันทุกวันอังคารที่ https://youtube.com/c/InfoQuestNews
https://youtu.be/M-A2QZl1Y4w