นางพรธิภัสร์ ขันธีวิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.ซีเอแซด (CAZ) เปิดเผยว่า ขณะนี้มูลค่างานในมือ (Backlog) เพิ่มเป็น 4,156 ล้านบาท หลังจากได้งานล่าสุด 2 โครงการเมื่อวานนี้รวมมูลค่าราว 167.74 ล้านบาท โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว หนองแฟบ และ โครงการพลังงานสะอาด
ในปีนี้มีงานที่บริษัทอยู่ระหว่างติดตามและเตรียมเข้าประมูล 8 โครงการ รวมมูลค่าทั้งหมดราว 4,702 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาสรุปไปแล้ว 2 โครงการข้างต้น ซึ่งเป็นงานต่อเนื่องจากโครงการที่ดำเนินการอยู่ ขณะที่มีโครงการใหญ่มูลค่าราว 2 พันล้านบาท เป็นโครงการปิโตรเคมี คาดว่าจะสรุปภายในไตรมาส 4/65 โดยมีผู้ร่วมทุนญี่ปุ่น ไทย และเกาหลี จึงคาดว่ามีโอกาสได้งานค่อนข้างสูงจากการที่มีผู้บริหารของบริษัทเป็นชาวเกาหลี
นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ กรรมการและกรรมการบริหาร CAZ เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 65 จะเติบโตได้ราว 15-20% ขณะที่ยอมรับว่าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้น่าจะลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย แต่บริษัทจะพยายามรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิให้เท่ากับปีที่ผ่านมา
สำหรับราคาเหล็กที่ปรับขึ้นมาสูงในขณะนี้ อาจส่งผลกระทบกับต้นทุนโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการบ้าง โดยยังต้องสั่งซื้อเหล็กเข้ามาอีกราว 200 ตัน ประเมินผลกระทบราว 2 ล้านบาท แต่ในส่วนของโครงการใหม่ได้มีการขยับราคาขึ้นไปตามต้นทุนที่สูงขึ้นแล้ว