บมจ.อุบล ไบโอ เอทานอล (UBE) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทรับทราบการลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ กรรมการบริหารความเสี่ยง และกรรมการบริหาร ของนายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ มีผลตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.65 เพื่อมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการวางแผนและกลยุทธ์องค์กร และแต่งตั้ง นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.65 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ นางสาวสุรียส เป็นผู้บริหารที่มีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท การวางระบบการทำงานและการดูแลด้านการปฏิบัติการ มีความสามารถ มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมพลังงานและอาหาร มีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ และเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีเครือข่ายในการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจที่ตอบโจทย์อาหารแห่งอนาคต
นางสาวสุรียส กล่าวว่า พร้อมต่อยอดธุรกิจตามเป้าหมายที่แจ้งไว้ในเอกสารชี้ชวน และจะดำเนินธุรกิจให้ครบด้านทั้งการหาโอกาสทางการตลาด ธรรมาภิบาล การใส่ใจเกษตรกร ชุมชนโดยรอบโรงงาน เรื่องสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการพัฒนาพนักงานให้เป็นนวัตกรในองค์กร ขับเคลื่อนร่วมกันไปให้ยั่งยืน
ในปี 65 บริษัทมีแผนขยายธุรกิจเอทานอล, ธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์อื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง จะเพิ่มการผลิตแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิคและแป้งฟลาวมันสำปะหลัง ที่ปราศจากกลูเตน (Gluten Free) ภายใต้แบรนด์ Tasuko เพื่อตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพที่มาแรงและได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคที่ดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี รวมถึงการขยายการผลิตและจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรที่มีมูลค่าสูง (High Value Product หรือ HVP) ชนิดอื่น ๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีมูลค่าสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และการร่วมทุนกับพันธมิตร (JV) ในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับข้าวออร์แกนิก, สารให้ความหวาน รวมถึงผลิตภัณฑ์เบเกอรี่และขนมหวาน ซึ่งกำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อเพิ่มฐานรายได้และหนุนการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
สำหรับแผนธุรกิจ 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทมีเป้าหมายผลักดันธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง รวมทั้งธุรกิจเกษตรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 70% และธุรกิจเอทานอลลดสัดส่วนผลิตลงเหลือ 30%
นางสาวสุรียส กล่าวอีกว่า ส่วนในปี 65 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15-20% โดยในปี 64 มีรายได้จากการขาย 6,966.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,532.3 ล้านบาท หรือ 57.1% จากปี 63 และกำไรสุทธิ 320.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 221.6 ล้านบาท หรือ 223.1% จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอทานอลเกรดอุตสาหกรรมและแป้งออร์แกนิค ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของ spread เอทานอลเกรดเชื้อเพลิง นับเป็นการเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ
"ในปี 65 UBE มองเห็นถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง และธุรกิจเกษตรอินทรีย์ จากแนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังและความต้องการในผลิตภัณฑ์อาหารที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก รวมถึงการเร่งเดินหน้าสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพ ตลอดจนการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของ UBE อย่างมั่นคง"นางสาวสุรียส กล่าว