นายพงษ์ชัย อมตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) เจรจาลู่ทางขยายไลน์ธุรกิจใหม่คาดจะสรุปได้ภายใน 5 เดือนข้างหน้า โดยจะใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่ประมาณ 400-500 ล้านบาท ส่วนธุรกิจหลักปีนี้คาดว่ารายได้โตพุ่งถึง 50% แตะ 7.1 พันล้านบาทตามการเติบโตงานประมูลภาครัฐ ส่วนกำไรสูงขึ้นได้แม้รับงานต่างประเทศที่มีมาร์จิ้นต่ำเพิ่มขึ้นมา แต่มีวอลุ่มสูงชดเชยกัน และเน้นควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย เชื่อจ่ายปันผลได้สูงกว่าปี 50
"สำหรับธุรกิจใหม่จะใช้เงินลงทุนประมาณ 400-500 ล้านบาท บริษัทจะทำแต่เพียงผู้เดียว ปัจจุบันมีสถาบันการเงินที่พร้อมให้เงินกู้กับบริษัทอยู่แล้ว แม้ว่าปัจจุบันจะมี D/E 1.4 เท่า และหากเพิ่มเงินกู้จะกระทบกับ D/E แต่บริษัทจะพยายามรักษาไว้ไม่เกิน 2 เท่า"นายพงษ์ชัย กล่าว
ในปีนี้บริษัทจะพยายามรับรู้รายได้จากงานโปรเจ็คต์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีรายได้ 7.1 พันล้านบาท เติบโตกว่า 50% จาก 4 พันล้านบาทในปี 50 ตามแนวโน้มงานประมูลภาครัฐที่จะเพิ่มขึ้นมากจากปีก่อน หลังจากมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ
ขณะที่งานในมือขณะนี้มีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
งานที่มีตอนนี้เป็นงานโครงการติดตั้งจ้างเหมาอุปกรณ์ชุมสายรองรับบริการบรอดแบนด์ 167,500 พอร์ต มูลค่าโครงการ 850 ล้านบาทของบมจ.ทีโอที ทยอยรับรู้ถึงไตรมาส 4/51,งานประมูลโครงการอุปกรณ์ ATA(Analog Telephone Adaptor)เชื่อมต่อไอพีสตาร์ และงานประมูลโครงการย่อยๆ ที่เพิ่มเข้ามาต่อเนื่อง
FORTH ยังได้รับคำสั่งซื้อจาก Western Digital (WD) ซึ่งเป็นบริษัทฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ของโลกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้จะมียอดเพิ่มเป็น 1.2 ล้านชิ้น/เดือน จากปีก่อนที่ 0.8 ล้านชิ้น/เดือน ขณะเดียวกันภาคเอกชนยังมีการสั่งซื้อสินค้าปลีกที่บริษัทดำเนินการจำหน่ายอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ในเดือนม.ค.-มี.ค.51 บริษัทเซ็นสัญญางานเพิ่มเติมกับหน่วยงานต่างๆ คิดเป็นเม็ดเงินที่ค่อนข้างสูงราว 85.8 ล้านบาท ได้แก่ โครงการจัดซื้ออุปกรณ์ DSLAM และอุปกรณ์ประกอบ, โครงการจัดซื้ออุปกรณ์ IP DSLAM และอุปกรณ์ประกอบ และ โครงการจัดซื้อมิเตอร์ อิเลคทรอนิคส์
"ปีนี้ปริมาณงานภาครัฐบาลจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะจากทีโอที ยังมีงานรอให้ประมูลอีกกว่า 3,000 ล้านบาท โดยเทียบจากโครงการติดตั้งอุปกรณ์ชุมสายรองรับบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่ยังจะต้องมีการติดตั้งเพิ่มอีกกว่าหลักล้านพอร์ต และยังมีความต้องการอุปกรณ์เทคโนโลยีสื่อสารอื่นที่เกี่ยวข้องอีกด้วยนอกเหนือจากงานภาครัฐบาลอื่นเช่น สัญญาณไฟจราจร กล้องวงจรปิด CCTV ซึ่ง FORTH มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลทุกโครงการ"นายพงษ์ชัย กล่าว
ในด้านกำไรก็คาดว่าจะเติบโตจากปีก่อนที่มีกำไร 211 ล้านบาท แม้จะรับงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้นลดลงมาที่ 12.5% จาก 17% แต่วอลุ่มงานดังกล่าวค่อนข้างสูง ประกอบกับบริษัทพยายามควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายไม่ให้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้งวดปี 51 บริษัทจะสามารถจ่ายปันผลได้สูงกว่าปี 50 ที่จ่ายในอัตรา 0.25 บาท/หุ้น
"แม้ว่าปี 50 เป้าหมายรายได้และกำไรจะพลาดเป้าไปมาก เนื่องจากปัญหาการเมืองทำให้ไม่มีงานออกมาประมูลมากนัก แต่ปีนี้เรามั่นใจ เพราะเริ่มตั้งแต่ต้นปีทั้ง TOT และ CAT ต่างมีงานประมูลต่อเนื่อง รวมถึงงานของกทม.ในส่วนของ CCTV และป้ายไฟจราจรอัจฉริยะ"นายพงษ์ชัย กล่าว
บริษัทได้เตรียมงบลงทุนปกติในปีนี้ไว้ประมาณ 150 ล้านบาท โดยจะใช้ลงทุนป้ายไฟจราจร 100 ล้านบาท และใช้ลงทุนในงานปกติ 50 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีกระแสเงินสด 30 ล้านบาท และเหลือวงเงินกู้กับสถาบันการเงินได้อีก 300 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/นิศารัตน์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 322 อีเมล์: nisarat@infoquest.co.th--