นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.สมาร์ทคอนกรีต (SMART) เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มการดำเนินธุรกิจไตรมาส 1/65 จะเติบโตดีต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากโครงการภาครัฐ เริ่มดำเนินการก่อสร้างในปีงบประมาณใหม่ และผู้ประกอบการภาคอสังหาฯที่ชะลอแผนเปิดโครงการ สามารถปรับตัวรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาทยอยลงทุนและดำเนินงานได้ตามปกติ
อีกทั้งสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเกิดการเปลี่ยนแปลง มีความต้องการวัสดุก่อสร้าง เพื่อก่อสร้าง-ตกแต่งที่พักอาศัย อาคาร ร้านอาหาร โรงแรม ที่สามารถช่วยให้งานเสร็จได้รวดเร็ว ลดต้นทุน ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้วัสดุอิฐมวลเบา-อิฐมวลเบาตกแต่งที่ได้มาตรฐาน ปรับตัวสูงขึ้น 85 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทได้ลงทุนเครื่องจักรใหม่เข้ามาช่วยเพิ่มการผลิตบล็อคมวลเบาตกแต่ง เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้บริษัทยังออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ อิฐมวลเบาเพื่องานโครงสร้าง และอิฐมวลเบาเพื่องานตกแต่งภายใน-ภายนอก ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น เน้นการแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ประหยัดพลังงาน ลดต้นทุน และรักษาสิ่งแวดล้อม อาทิ อิฐมวลเบาขนาดใหญ่พิเศษ (Jumbo Block) อิฐมวลเบาขนาดเล็กพิเศษ ( Compack Block ) สำหรับแก้ไขข้อจำกัดในการก่อสร้าง และคานทับหลังสำเร็จรูป ที่ติดตั้งได้ง่าย รวดเร็ว สามารถประหยัดเวลา ช่วยลดความยุ่งยากของงานก่อผนัง
ส่วนกลยุทธ์การตลาดในช่วงต่อจากนี้ SMART ยังคงเน้นการขยายฐานลูกค้าอย่างหลากหลาย ทั้งในส่วนของโครงการขนาดใหญ่ ลูกค้ารายย่อย ผู้ออกแบบ ผู้รับเหมา โดยการใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline) สื่อสารกับทุกกลุ่ม ควบคู่กับการขยายช่องทางการจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ผลักดันสินค้าผ่านร้านค้า อาทิ โมเดิร์นเทรด ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง และเพิ่มตัวแทนจำหน่าย ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง เพื่อกระจายสินค้าเข้าสู่กลุ่มลูกค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่
ปัจจุบัน SMART Block มีวางจำหน่ายในโกลบอลเฮ้าส์ จำนวน 77 สาขา ไทวัสดุ จำนวน 65 สาขา ดูโฮม จำนวน 10 สาขา และร้านค้าวัสดุก่อสร้าง จำนวน 152 แห่ง ทั่วประเทศ