ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดกลยุทธ์กลุ่มงานลูกค้าธุรกิจ SME ปี 65 เดินหน้าสู่การเป็นธนาคารหลักสำหรับลูกค้าธุรกิจ SME มุ่งสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าในทุกการก้าวผ่านสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยแผนกลยุทธ์ในการดูแลลูกค้า SME ผ่าน 3R ได้แก่ Resilient, Respond และ Rebuild for the Future โดยเน้นพัฒนาด้านดิจิทัลและนวัตกรรม อีกทั้งเดินหน้าเชื่อมต่ออาเซียนสร้างโอกาสธุรกิจเพื่อลูกค้า พร้อมเป็นพันธมิตรที่ลูกค้า SME ไว้วางใจ
นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี BAY กล่าวว่า แผนกลยุทธ์ในการดูแลลูกค้า SME ผ่าน 3R ได้แก่
- Resilient: มุ่งช่วยให้ธุรกิจลูกค้าฟื้นตัว โดยแบ่งการดูแลลูกค้าออกตามกลุ่มที่ได้รับผลกระทบต่างๆ ซึ่งในกลุ่มที่ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จะมีผู้จัดการลูกค้าสัมพันธ์ของธนาคาร (Relationship Manager) ดูแลอย่างใกล้ชิด และมีมาตรการต่าง ๆ ในการช่วยสนับสนุนฟื้นฟูธุรกิจของลูกค้า และสำหรับกลุ่มที่พร้อมจะเติบโต ในวันที่เศรษฐกิจของไทยเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น กรุงศรีก็พร้อมสนับสนุนสินเชื่อหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินด้านอื่น ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังมีการจัดการดูแลลูกค้าตามกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละธุรกิจอีกด้วย
- Respond: มุ่งตอบสนองความต้องการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้จัดการลูกค้าสัมพันธ์ของธนาคารจะเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้า สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านการเงิน แนะนำโซลูชั่นที่เหมาะสมให้กับลูกค้า และเพิ่มมูลค่าแก่ลูกค้าด้วยการแบ่งปันข้อมูล ความรู้ ทักษะใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้กับลูกค้า
- Rebuild for the Future: มุ่งช่วยให้ธุรกิจลูกค้าเติบโตในอนาคต โดยกรุงศรีร่วมสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าให้เติบโตไปด้วยกัน โดยแบ่งเป็น 3 แนวทางหลักที่สอดคล้องไปกับทิศทางของกรุงศรีในการดูแลลูกค้าของธนาคาร อันได้แก่ ASEAN Connectivity หรือการเชื่อมโยงอาเซียน โดยประสานความร่วมมือกับ MUFG และเครือข่ายมาเสริมความแข็งแกร่งในการช่วยลูกค้าขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ทั้งในด้านการขยายบริการธุรกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศ และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ทั้งงานสัมมนา หรือการจับคู่ธุรกิจ, Trusted Partner หรือการเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจ พัฒนา Ecosystem ให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของลูกค้าอย่างครบวงจร พร้อมพัฒนานวัตกรรมทางการเงินด้าน ESG อาทิ สินเชื่อโซลาร์รูฟสำหรับผู้ประกอบการ และ Digital & Innovation หรือการเป็นผู้นำด้านดิจิทัลและนวัตกรรม
ในส่วนของ Digital & Innovation ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของกลุ่มธุรกิจ SME ในปีนี้ โดยมี 4 ผลิตภัณฑ์และบริการหลักที่เรามุ่งเน้น คือ 1. Krungsri Digital Supply Chain Solution คือ โซลูชั่นเพื่อช่วยสนับสนุนธุรกิจในกลุ่ม Supply Chain และช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ 2. Krungsri Biz Online หรือที่รู้จักกันในชื่อ KBOL ดิจิทัลแบงก์กิ้งเพื่อการทำธุรกรรมออนไลน์ของธุรกิจ โดยในปีนี้ KBOL ยังจะพัฒนาฟีเจอร์และบริการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้าธุรกิจของธนาคารกรุงศรี
3. "Krungsri iPro" นวัตกรรมทางการเงินเพื่อการเปิดบัญชีนิติบุคคลในยุคดิจิทัล ให้ลูกค้า SME ก้าวข้ามความยุ่งยากแบบเดิมๆ ด้วยเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกลูกค้า ลดขั้นตอนด้านเอกสาร สามารถนัดหมายวันเวลาเพื่อเปิดบัญชีได้ที่ออฟฟิศของลูกค้า พร้อมเปิดใช้งานบัญชีได้ทันที และ 4. "Krungsri Business Link" แพลตฟอร์มจับคู่ธุรกิจออนไลน์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าธุรกิจในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ สะดวกและน่าเชื่อถือด้วยการคัดกรองคู่ค้าจากกรุงศรีและพันธมิตร"
"ปีนี้ยังคงเป็นปีแห่งความท้าทายอย่างยิ่ง ธุรกิจต้องปรับตัวรับสถานการณ์ความเสี่ยงต่างๆ และมีความ Resilience พร้อมลุกขึ้นเพื่อก้าวผ่านในทุกวิกฤต อีกทั้งหาหนทางเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจโดยเฉพาะยุคดิจิทัลนี้ ธนาคารพร้อมสนับสนุนธุรกิจของลูกค้า ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ ความรู้ และโอกาสธุรกิจ โดยนำดิจิทัลและเทคโนโลยีมาเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อให้ลูกค้า SME สามารถก้าวผ่านและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน ในปี 65 เรายังคงตั้งเป้าสินเชื่อของ SME ให้สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเราตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อกลุ่มธุรกิจ SME ในปีนี้ อยู่ที่ 2.5%" นางสาวดวงกมล กล่าว