บมจ. ระยองเพียวริฟายเออร์ (RPC) เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายเปิดตัวธุรกิจไบโอดีเซลให้ได้ภายในเดือนก.ค.นี้ โดยใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นวัตถุดิบ กำลังการผลิตเต็มที่ 3 แสนลิตรต่อวัน แต่เบื้องต้นคาดว่าจะผลิต 1.5 แสนลิตรต่อวัน น่าจะสร้างกำไรไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทในปี 51
"บริษัทเชื่อมั่นว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องวัตถุดิบเนื่องจากมีสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบกับผู้ผลิต 4-5 ราย โดยซื้อที่ราคาตลาด ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากจึงอาจส่งผลกระทบต่อมาร์จิ้นแต่เรายังเชื่อว่าธุรกิจไบโอดีเซลจะมีกำไรแน่นอน" ด้านนางศิรพร กฤษณกาจนญ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ RPC กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ด้านนายศุภพงษ์ กฤษณกาญจน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะเริ่มเปิดธุรกิจคลังน้ำมันและค้าปลีกน้ำมันในประเทศกัมพูชาภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า จากก่อนหน้านี้ติดปัญหาเรื่องกฎหมายทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งคลังน้ำมันดังกล่าวจะดำเนินการโดย TCS OIL ที่เป็นบริษัทภายในประเทศกัมพูชา โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 3-4 ล้านบาทต่อเดือน จากปริมาณขายน้ำมันประมาณ 1 หมื่นตันต่อเดือน
"คลังน้ำมันในประเทศกัมพูชาของเราอยู่ที่ปอยเปต สร้างเสร็จมานานแล้วแต่ติดปัญหาด้านกฎหมายในประเทศ เราพยายามแก้ไขโดยการขนส่งน้ำมันทางเรือก่อน แต่ตอนนี้เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มเปิดได้ใน 1-2 เดือน"นายศุภพงษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทพยายามเริ่มธุรกิจ International Trading ให้ได้ในเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่มีแผนทำธุรกิจนี้มาเกือบ 2 ปี โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเทรดดิ้งน้ำมันประมาณ 1 แสนลิตรต่อเดือน ทั้งนี้ หากหากธุรกิจเทรดดิ้งเริ่มดำเนินการจะสร้างรายได้และกำไรให้บริษัทอย่างก้าวกระโดด
ในปี 51 บริษัทจะมีกำไรสุทธิจะใกล้เคียงกับปี 50 ที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 400.69 ล้านบาท โดยรายได้และกำไรของบริษัทมาจากธุรกิจหลักคือ จำหน่ายน้ำมัน
"คิดว่า กำไรสุทธิในปีนี้ จะอยู่ในระดับ 300-400 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน" นายศุภพงษ์ กล่าว
สำหรับแผนการซื้อหุ้นคืนของบริษัทเป็นจำนวน 220 ล้านบาท โดยเริ่มทยอยซื้อหุ้นในกระดานตั้งแต่ปลายเดือนก.พ.-ช่วงก.ค.นั้น เพื่อให้หุ้นมีการเคลื่อนไหวในการซื้อขาย และมองว่าราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ประกอบกับบริษัทมีสภาพคล่องทางการเงิน
"หุ้นเราไม่ค่อยมี active และบริษัทมีกระแสเงินสดสูงจึงนำมาซื้อหุ้นคืน เท่าที่ซื้อมาประมาณ 2 สัปดาห์ถือว่ามีการเคลื่อนไหวที่ดีแต่ไม่ได้มีเป้าหมายสร้างราคาหุ้นแต่อย่างใด" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ RPC กล่าว
*น้ำมันขึ้นฉุดมาร์จิ้นหน้าปั๊ม-เปิดขายไบโอดีเซล ก.ค.
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันในปัจจุบันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น นางศิรพร กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายตามสถานีน้ำมันไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ไม่ปรับเพิ่มนั้น ส่งผลกระทบต่องผู้ค้าน้ำมันขายปลีกรายเล็กที่ประสบภาวะขาดทุนจนต้องปิดกิจการ เนื่องจากสภาวะราคาขายปลีกไม่เป็นไปตามกลไกตลาดโลกที่แท้จริง ซึ่งรัฐบาลควรเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องนี้
"RPC ยังไม่มีปัญหาการปิดปั๊มจากปัจจุบันที่มี 70-80 ปั๊ม แม้ว่าราคาขายหน้าปั๊มบางวันทำให้เราขาดทุนเพราะราคาหน้าคลังสูงกว่า แต่เราก็ปรับราคาขึ้นตามจริงเพราะหากรอรายใหญ่ปรับเพิ่มราคาขายปลีกเราก็ไม่สามารถอยู่ได้ แต่วอลุ่มที่ขายได้ก็ปรับตัวลดลงด้วย ซึ่งก็ดีกว่าขาดทุนและยิ่งราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นมากเท่าไร รายเล็กก็จะล้มหายตายจาก หรือต้องปิดกิจการไปบางช่วง ช่วงนี้ถือว่าสาหัสสำหรับธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน เราพยายามดูแลรักษาปั๊มของเราไม่ให้ปิดตัวลง"นางศิริพร กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--