นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. เจริญอุตสาหกรรม (CH) เปิดเผยว่า ขณะนี้ CH ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) เพื่อประกอบการยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 160 ล้านหุ้น คิดเป็น 20% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท
"ในปัจจุบัน เจริญอุตสาหกรรม มีทุนจดทะเบียนจำนวน 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 320 ล้านบาท โดยมีทุนจดทะเบียนส่วนที่ยังไม่ได้ชำระจำนวน 80 ล้านบาท หรือคิดเป็น 160 ล้านหุ้น ที่จะรองรับการเสนอขาย IPO โดยจะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)"นายสมศักดิ์ กล่าว
นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CH เปิดเผยว่า บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ดังนี้ (1) ผลไม้อบแห้ง (2) ปลากระป๋อง และ (3) ขนมเพื่อสุขภาพ บริษัทเน้นส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศมากกว่าร้อยละ 70 ของรายได้จากการขาย อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน อิตาลี เนเธอร์แลนด์ อินเดีย ไต้หวัน ฝรั่งเศส คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น
"บริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผลิตผลไม้และอาหารแปรรูป จากการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปและอาหารบรรจุกระป๋องที่หลากหลาย มีทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งมีการคิดค้น พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ และช่วยให้คำปรึกษาและคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ร่วมกับลูกค้า โดยบริษัทมีรูปแบบการจำหน่ายสินค้าแบบรับจ้างผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Original Equipment Manufacturing : OEM) จำหน่ายสินค้าเป็นแพ็คใหญ่ (Bulk Pack) ให้กับกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมและกลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ และจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัท อาทิ EROS ซูมาโก้ เรือรบ Meble และ ChinHuay เป็นต้น" นายศักดา กล่าว
นายสุพล ค้าพลอยดี กรรมการผู้จัดการ APM กล่าวเสริมว่า การยื่นไฟลิ่งของ CH ในครั้งนี้เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO และจะเตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนใน SET จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจของบริษัท และช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย รวมถึงสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับองค์กรในระยะยาว
"CH จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้ในการปรับปรุงโรงงานผลิตสินค้าที่โรงงานท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตสินค้า และปรับปรุงคลังสินค้าท่าทราย จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บวัตถุดิบ (Raw Material) สินค้ากึ่งสำเร็จรูป (Semi-Product) และสินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods) รวมถึงจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทอีกด้วย" นายสุพล กล่าว