SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,680.89 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด (+0.18%) มูลค่าการซื้อขาย 66,566.59 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบแคบ-วอลุ่มบาง แต่ยังบวกตามตลาดหุ้นอาเซียน คาดเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าหุ้นขนาดกลาง-เล็ก และแรงซื้อหุ้นพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นกังวลอุปทานตึงตัว ขณะที่ตลาดรอผลประชุม NATO ในคืนนี้จะคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มหรือไม่ ซึ่งจะชี้ทิศทางพรุ่งนี้ พร้อมให้แนวต้าน 1,690 จุด แนวรับ 1,670 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,680.89 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด (+0.18%) มูลค่าการซื้อขาย 66,566.59 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งในกรอบแคบส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยทำระดับสูงสุด 1,685.12 จุด และลงไประดับต่ำสุดที่ 1,675.19 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 594 หลักทรัพย์ ลดลง 1,083 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 646 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวแคบ และวอลุ่มการซื้อขายเบาบาง แต่ยังปิดบวกได้ตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ (กลุ่ม TIP) รวมถึงสิงคโปร์ และมาเลเซีย คาดว่าเม็ดเงินต่างประเทศ (Fund Flow) ไหลเข้า โดยวันนี้หุ้นขนาดกลางและเล็กปรับตัวขึ้นมาแต่ไม่ได้มีผลต่อภาพรวมดัชนีมากนัก
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานทั้งน้ำมันและถ่านหินปรับตัวขึ้นช่วยพยุงตลาดไว้ เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่เหนือ 120 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าบริษัท แคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (CPC) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างรัสเซียและคาซัคสถานไม่สามารถส่งออกน้ำมันจากโรงงานที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลดำ เนื่องจากได้รับความเสียหายจากพายุ และต้องใช้เวลาซ่อมแซมราว 1 เดือนครึ่ง
นอกจากนี้ ตลาดรอการประชุมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ที่มีสมาชิกหลักอย่างสหรัฐและชาติยุโรปจะมีมาตรการคว่าบาตรรัสเซียเพิ่มเติมหรือไม่ แต่คาดว่ายุโรปไม่ต้องการคว่ำบาตรเพิ่ม เนื่องจากราคาน้ำมันสูงจากเหตุการณ์ CPC ไม่สามารถส่งน้ำมันได้ หากคว่ำบาตรอีกก็จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้น เป็นแรงกดดันเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก
แนวโน้มการลงทุนพรุ่งนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการประชุม NATO คืนนี้ แต่ก็คาดว่าจะไม่มีการคว่าบาตรรัสเซียเพิ่มเติม พร้อมให้แนวต้านที่ 1,690 จุด แนวรับที่ 1,670 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,018.10 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,767.99 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,317.81 ล้านบาท ปิดที่ 159.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,891.46 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,579.38 ล้านบาท ปิดที่ 231.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท