จากสภาวะสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียที่ยืดเยื้อมากว่าหนึ่งเดือน แม้นานาชาตินำโดยสหรัฐอเมริกาและกลุ่มสหภาพยุโรปจะได้ดำเนินการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียอย่างเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อกดดันให้รัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
แต่ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว Cryptocurrency โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Bitcoin ได้ถูกนำมาใช้เป็นระบบการเงินทางเลือกในภาวะสถานการณ์อันตึงเครียดนี้ จนทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องจากหลายภาคส่วนมองว่า นี่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Bitcoin ที่จะทำให้ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลกมากขึ้นหลังจากนี้ก็เป็นได้
หลังจากที่รัสเซียถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจให้ออกจากระบบ SWIFT หรือระบบการเงินระหว่างประเทศ ทำให้นักธุรกิจชาวรัสเซียที่ยังคงต้องทำการค้าระหว่างประเทศบางส่วนมองว่า Bitcoin คือหนึ่งในทางออกที่สำคัญในภาวะที่ระบบการเงินของประเทศมีปัญหา
นอกจากนี้ ในส่วนของยูเครนเองที่ประเทศกลายเป็นสนามรบ ก็เป็นธรรมดาที่จะทำให้ขาดความเชื่อมั่นในระบบธนาคาร และมีการแห่ถอนเงินสดออกมาเก็บไว้ แต่ก็ถูกจำกัดจากการที่ธนาคารกำหนดวงเงินการถอนเงิน นอกจากนี้ ประชากรจำนวนมากที่ต้องอพยพก็อาจจะไม่สะดวกที่จะต้องนำทรัพย์สินมีค่าติดตัวไปด้วย และการอพยพออกนอกประเทศนั้นการขนเงินสดหรือทรัพย์สินมีค่าออกไปด้วยก็อาจกระทำได้อย่างจำกัด จึงได้มีประชาชนบางส่วนได้เข้าไปซื้อ Bitcoin เพื่อเก็บไว้แทนในยามสงคราม
โดยเมื่อระยะเวลาการถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจได้ขยายยาวนานขึ้นอันเนื่องมาจากสภาวะสงครามที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้รัสเซียได้พยายามหาทางออกเพื่อบรรเทาความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นด้วยการประกาศให้ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย (นับเป็นประเทศที่สองของโลกต่อจากประเทศเอลซัลวาดอร์)
และประกาศว่าขณะนี้ได้มีการพิจารณานโยบายเพิ่มทางเลือกในการให้ใช้ Bitcoin เพื่อชำระเป็นค่าตอบแทนจากซื้อขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ สำหรับ "ประเทศที่เป็นมิตร" อย่างเช่น จีน หรือ ตุรกี นอกเหนือจากการใช้สกุลเงินของประเทศผู้ซื้อเอง ทั้งนี้ ก่อนหน้าเกิดสถานการณ์ความตรึงเครียดนี้ รัสเซีย จีน ตุรกี ได้ตกลงให้สามารถชำระค่าพลังงานต่อรัสเซียโดยใช้สกุลเงินรูเบิล หยวน และลีร่าได้
จากการรายงานล่าสุดพบว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมาทางรัฐบาลรัสเซียได้มีการประชุมส่วนใหญ่เพื่อหาทางออกการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากที่ระบบเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบอย่างมากจากการถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยได้มีแนวคิดขยายการรับ Bitcoin เพื่อชำระเป็นค่าตอบแทนจากการค้าขายสินค้าประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย
นอกจากนี้ยังมีความคิดอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น การพัฒนาการค้าออนไลน์, การควบคุมการขุด Bitcoin, ควบคุมระบบการหมุนเวียนของสกุลเงินดิจิทัล และสินทรัพย์ทางการเงินดิจิทัลต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อให้ระบบการเงินของรัสเซียพร้อมสำหรับการรวมเข้ากับ Bitcoin และ cryptocurrency เหรียญอื่น ๆ โดยได้มีแนวคิดที่จะแก้ไขปัญหากฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับ cryptocurrency ร่วมกับธนาคารกลางของรัสเซีย รวมถึงจัดทำการประเมินความเสี่ยงสำหรับการนำ cryptocurrency เข้ามาหมุนเวียนในระบบการเงินของรัสเซียต่อไป
โดยผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อนโยบายดังกล่าวอาจได้มีการวางแผนมาอย่างยาวนานแล้ว ดังจะเห็นได้ว่า รัสเซียเป็นประเทศที่มีการขุด Bitcoin ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก อีกทั้งพลเมืองของรัสเซียยังถือ cryptocurrency ประมาณ 11% ของมูลค่าสินทรัพย์ cryptocurrency ทั่วโลก (สถิติจาก Citigroup)
การถือครอง cryptocurrency ที่มากอย่างมีนัยสำคัญนี้ จึงทำให้เกิดความเชื่อที่ว่ารัสเซียอาจสามารถหลบเลี่ยงการถูกคว่ำบาตรได้ด้วยความสนับสนุนจากชาติอื่น เช่น จีน อิหร่าน และประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย เนื่องจากสามารถทำธุรกรรมได้โดยไม่ต้องเกี่ยวข้องกับระบบธนาคารทั่วโลก
นางสาวดุษดี ดุษฎีพาณิชย์
ทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านนิติกรรมสัญญา
และอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ