HILITE: กลุ่ม JMART บวกยกแผง โบรกฯมองเข้าหมวดโต-ขยายต่อแบบ Inorganic-ลุ้นเข้า SET50

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 29, 2022 10:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้นกลุ่ม JMART ปรับตัวขึ้นทั้งกลุ่ม โดยเมื่อเวลา 10.26 น. นำโดย JMT ดีดตัวขึ้น 5.76% หรือเพิ่มขึ้น 4.00 บาท มาที่ 73.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 883.61 ล้านบาท

JMART ปรับขึ้น 4.46% หรือเพิ่มขึ้น 2.50 บาท มาที่ 58.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 454.44 ล้านบาท

SINGER ปรับขึ้น 1.40% หรือเพิ่มขึ้น 0.75 บาท มาที่ 54.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 162.22 ล้านบาท

J ปรับขึ้น 3.72% หรือเพิ่มขึ้น 0.16 บาท มาที่ 4.46 บาท มูลค่าซื้อขาย 16.35 ล้านบาท

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.เจมาร์ท (JMART) ปี 65 แนวโน้มบริษัทในเครือยังอยู่ในทิศทางเติบโต ทั้ง JMT ตามยอดเก็บเงินสดและการขยายพอร์ตฯ NPL เพิ่มเติมด้วยการทำ JV x KBANK ในช่วงกลางปี, SINGER การขยายแฟรนไชส์เท่าตัวและพอร์ตจำนำทะเบียน +47%YoY Mobile +68% การเพิ่มสินค้ากลุ่ม IT,IoTs,Caf ขยายสาขาในรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

ส่วน KBJ +100% เร่งขยายฐานลูกหนี้และสินเชื่อ +50%YoY และ J รับรู้กำไรจาก JAS Kubon เต็มปีและเริ่มโครงการที่พักผู้สูงอายุ (Senera) นอกจากนี้ JVC หาลูกค้ากลุ่ม Digital transformation ประเมินกำไรปกติไตรมาส 1/65 ราว 400 ล้านบาท ทรงตัวสูงเทียบ QoQ,+20%YoY เป็นฐานก่อนการไต่ระดับในช่วงที่เหลือของปี

ขณะที่ JMART ไม่เคยหยุดที่จะมองหาโอกาสเติบโตใหม่ๆ บริษัทเผยว่าอยู่ระหว่างศึกษาการขยายธุรกิจแบบ Inorganic มากกว่า 20 โครงการในปีนี้ ซึ่งอาจเป็นรูปแบบร่วมลงทุนหรือพันธมิตรทางธุรกิจ โดยมีบางส่วนที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น JAYDEE (การรวมกลุ่มร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัด หนุนธุรกิจเงินผ่อน-ค้าปลีก), จัดตั้ง JSG (JMART 50%,GUNKUL40%,SINGER 10%) เพื่อผลิตสินค้ากลุ่ม smart energy ให้กับเครือ ฯลฯ

เราเชื่อว่าจะยังเห็นอีกหลายโครงการในช่วงที่เหลือของปี เช่น ธุรกิจ F&B,HR,Medical,e-commerce,Technology ล้วนแต่เปิด Upside risk ของกำไรบางส่วนใน 2H65 และเข้ามาเต็มปี 2566

นอกจากนั้น ในระยะสั้นราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากโอกาสที่จะถูกเข้าคำนวณดัชนี SET50 ช่วงกลางปี แต่ในระยะยาวให้น้ำหนักต่อผลงอกเงยจากบริษัทในเครือจะเป็นแรงหนุนของการเติบโตกำไรปกติในปี 65-66 ที่ 2,082 และ 2,989 ลบ. +68 และ +44%YoY หรือเฉลี่ย (CAGR) 42% ต่อปีใน 3 ปีข้างหน้า เราปรับราคาเหมาะสมขึ้น 21% เป็น 75.00 บาท/หุ้น อิงวิธี SOTP ตามมูลค่าเหมาะสมของ JMT และ SINGER เพิ่ม 30% และ 11% ที่มีศักยภาพเติบโตได้ดีกว่าคาด โดยยังมี Hidden value จากบริษัทดาวรุ่งใหม่ที่จะเริ่มสะท้อนมูลค่า (JAYDEE,JVC,JGS)

ขณะที่ เมย์แบงก์ ได้ออกบทวิเคราะห์หุ้น JMT โดยมองว่าไตรมาส 1/65 เป็นฐานการเติบโตของปีนี้ หลังจากยปี 64 กำไรทำสถิติใหม่ที่ 1,400 ล้านบาท +34%YoY แม้เผชิญการ lockdown การเพิ่มทุนในช่วงปลายปีเพื่อเตรียมรุกในช่วง NPL ในระบบเป็นขาขึ้น ผู้บริหารตั้งเป้าขยายพอร์ตหนี้ฯด้วยงบลงทุนไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ 10,000 ล้านบาท (ใกล้เคียงกับที่เรามอง โดยไม่รวมส่วนเพิ่มจากกการทำ JV) และยอดเก็บเงินสด 5,000 ล้านบาท +10%YoY (ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม vs เราประเมินไว้ 6,000 ล้านบาท+31%YoY) เบื้องต้นประเมินกำไร ไตรมาส 1/65 ราว 430 ล้านบาท -10%QoQ,+52%YoY เป็นจุดต่ำสุดของปีก่อนจะขยายตัวตามพอร์ตหนี้ฯเก่า-ใหม่

จากข้อมูลงบการเงิน ณ สิ้นปีที่ผ่านมา KBANK มี NPL คิดเป็นมูลหนี้ราว 1 แสนล้านบาทโดยยังไม่รวมหนี้ที่ถูกกล่าวถึงเป็นพิเศษ (SML หรือ Stage 1-2) ที่อาจไหลมาเป็น NPL อีกเกือบเท่าตัว ตามที่ S&P Ratings ประเมิน การเร่งโอนหนี้เสียเข้า JV จะเป็นรูปแบบที่ win-win ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไตรมาส 2/65 และรับรู้กำไรในไตรมาส 3/65 ที่พร้อมจะทำ All time high

เราประเมินทุกเงินลงทุนใน JV 10,000 ล้านบาท จะสร้าง Upside risk ต่อกำไรตามสัดส่วน (50%) ราว 225 ล้านบาท/ปี หรือ +7% บนฐานกำไรปี 66 (+6.43 บ./หุ้น อิง P/E 40x) ทั้งนี้หากโมเดลข้างต้นสำเร็จจะเป็นตัวอย่างให้กับธนาคารพาณิชย์อื่นใน H2/65 ที่อยู่นอกเหนือประมาณการของเรา

ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 เท่ากับ 2,324 และ 3,465 ล้านบาท +66% และ 49%YoY ตอกย้ำภาพของหุ้นที่อยู่ Growth stage ยังคงชัดเจน แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นมาอยู่บน P/E ปี 65 40x ณ ระดับ +2SD ทว่าเมื่อรวม Upside risk จาก JV ส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อกำไรที่จะเพิ่มขึ้นใน 12-18 เดือนข้างหน้า รวมถึงความสม่ำเสมอบนกระแสเงินสดจากฐานลูกหนี้ที่ทนทานต่อปัจจัยลบภายนอกได้ ทำให้ราคาจะสามารถยืนสูงได้ต่อ เราปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 66 เป็น 103 บ./หุ้น อิง 40x ในปี 66 สะท้อน PEG 0.93x บนการเติบโต (CAGR ปี 64-66) +43% ต่อปี


แท็ก set50   SET  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ