PTTEP ปรับลง 2.36% หรือลดลง 3.50 บาท มาที่ 144.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,610.09 ล้านบาท โดยราคาเปิด 145.50บาท ราคาสูงสุด 146.50 บาท ราคาต่ำสุด 144.50 บาท
BANPU ปรับลง 0.89% หรือลดลง 0.10 บาท มาที่ 11.10 บาท มุลค่าซื้อขาย 473.24 ล้านบาท
ส่วน PTT อยู่ที่ 38.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า กลุ่มพลังงานต้นน้ำอาทิ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ.ปตท.(PTT) และ บมจ.บ้านปู (BANPU) ระยะสั้นไม่น่าสนใจ เนื่องจากทิศทางราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากก่อนหน้าปรับขึ้นไปถึงกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเกินปัจจัยพื้นฐานที่อยู่ในระดับ 90-95 เหรียญ/บาร์เรล
ปัจจุบันสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่ได้รุนแรงมากอย่างที่กังวล ขณะที่อิหร่านได้เริ่มเจรจาชาติตะวันตกว่าจะทำการส่งออกน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันภายใน 2 เดือน ซึ่งคิดเป็น 1% ของปริมาณในตลาดโลก ขณะที่ท่อส่งน้ำมันจากรัสเซียที่เสียหายและคาดว่าต้องใช้เวลาซ่อมถึง 2 เดือนนั้น ขณะนี้กลับมาดำเนินการได้แล้ว
อีกทั้ง ล่าสุด สหรัฐประกาศปล่อยน้ำมันจากคลังสำรอง 1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยจะปล่อยออกมาทั้งหมด 180 ล้านบาร์เรล คาดว่าจะใช้เวลาราว 6 เดือน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดล่วงหน้า อยู่ที่ 102 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 5.25% จากราคาสปอตที่อยู่ในระดับ 105 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ขณะที่ด้านดีมานด์ก็ลดลง จากผลกระทบจีนล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ โดยเฟสแรกได้ล็อกดาวน์ฝั่งตะวันออกที่จะจบในวันที่ 1 เม.ย. และเฟส 2 จะล็อกดาวน์ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 2-7 เม.ย. แต่วันนี้ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดมากขึ้น ทำให้ดีมานด์การใช้น้ำมันลดลงไป 5-8 แสนบาร์เรล/วัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลงมากพอสมควร จึงทำให้หุ้นกลุ่มน้ำมันไม่น่าสนใจในระยะสั้น