นายวิชิต สุรพงษ์ชัย นายกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า ภายหลังการประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ และได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อปลายปี 64 ที่ผ่านมา เพื่อให้การบริหารจัดการของกลุ่มธุรกิจทางการเงินไทยพาณิชย์บรรลุเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์ยานแม่ ที่มุ่งยกระดับสู่การเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินระดับภูมิภาคตามที่ได้วางไว้
คณะกรรมการธนาคารจึงได้มีการพิจารณาปรับผู้บริหารระดับสูงให้สอดคล้องกับโครงสร้างใหม่ของธุรกิจ เพื่อให้การบริหารงานมีความต่อเนื่อง และเป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยมีมติจากที่ประชุมเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 65 แต่งตั้งนายกฤษณ์ จันทโนทก ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยการดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารของนายกฤษณ์ จันทโนทก จะมีผลในวันที่ 1 ส.ค. 65
"คุณกฤษณ์ เป็นผู้มีความเหมาะสมและมากด้วยประสบการณ์ คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจการเงินการธนาคาร ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง รวมถึงธุรกิจประกัน โดยก่อนจะมาร่วมงานกับธนาคารไทยพาณิชย์ คุณกฤษณ์ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ ประเทศไทย จำกัด และเป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงด้วยการนำเทคโนโลยีมาสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจตลอดมา คุณกฤษณ์จะนำเอาความรู้ ความเชี่ยวชาญ ตลอดจนความเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้งมาช่วยสานต่อแผนยุทธศาสตร์ของธนาคารไทยพาณิชย์ ในการเป็นธนาคารที่ดียิ่งขึ้น หรือ To Be A Better Bank ได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนให้กับธนาคารไทยพาณิชย์ต่อไป" ดร.วิชิต กล่าว
ภายใต้โครงสร้างการบริหารจัดการใหม่นี้ทำให้นายอาทิตย์ นันทวิทยา จะพ้นจากการเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารไทยพาณิชย์ ในวันที่ 31 ก.ค. 65 และยังคงดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีบี เอกซ์ จำกัด
ส่วนผู้จัดการใหญ่ของ SCB ได้แก่ นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ และนายอารักษ์ สุธีวงศ์ จะพ้นจากตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของธนาคาร ในวันที่ 31 ก.ค. 65 ซึ่งปัจจุบันผู้จัดการใหญ่ทั้ง 3 ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินไทยพาณิชย์ ได้แก่ บริษัท คาร์ด เอกซ์ จำกัด บริษัท ออโต้ เอกซ์ จำกัด และบล.ไทยพาณิชย์ตามลำดับ
"การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงครั้งนี้ เพื่อมุ่งเน้นภารกิจสำคัญในการนำพากลุ่มไทยพาณิชย์สร้างมูลค่าจากธุรกิจใหม่ให้มีขนาดที่มีนัยยะสำคัญ รวมถึงการสร้างฐานลูกค้าในระบบให้ได้ 200 ล้านคน พร้อมทั้งนำพาธุรกิจของกลุ่มออกสู่ต่างประเทศ และการเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มทางเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก เพื่อยกระดับองค์กรสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินระดับภูมิภาค ที่สามารถตอบสนองความต้องการใหม่ของผู้บริโภค และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลกได้อย่างทัดเทียมและทันท่วงทีตามเป้าหมายที่ได้วางไว้" นายวิชิต กล่าว