นายปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี จิสติกส์ (B) เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนการลงทุนของกลุ่ม B ว่า ในส่วนของ บริษัท อีโคลด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ B กับ บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF) ได้เริ่มติดตั้งเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) เฟสแรกเกือบ 100 เครื่อง ซึ่งพร้อมที่จะเริ่มขุดคริปโทฯภายในสัปดาห์นี้ และจะทยอยติดตั้งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องให้ครบตามเป้าหมาย 2,200 เครื่อง
สำหรับธุรกิจจำหน่ายน้ำดิบที่ดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนคือ บริษัท เทพฤทธา จำกัด ภายหลังจากที่ได้มีการซื้อที่ดินเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับแหล่งน้ำ ล่าสุดได้มีการต่อสัญญากับ บริษัท ซุปเปอร์ วอเตอร์ จำกัด (Super water) ในการจำหน่ายน้ำดิบอีก 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้บริษัทดังกล่าวก็อยู่ในระหว่างศึกษาแผนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเบื้องต้นตั้งเป้าหมายว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดได้ภายใน 2-3 ปี
นายปัญญา ยังได้กล่าวต่อถึงธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ บริษัทได้ทำการซื้อรถหัวลากเข้ามาเสริมกองรถอีก 29 คัน รวมแล้วมีรถหัวลากจำนวน 66 คัน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 เม ย ที่ผ่านมา รวมทั้งมีการใช้บริการซับคอนแทรคที่เป็นพันธมิตรของอีกประมาณ 100 คัน เพื่อรองรับความต้องการใช้รถหัวลากได้เพียงพอ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทได้มีการขยายฐานลูกค้าขนส่งไปในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม จากเดิมที่จะเน้นเฉพาะอุตสาหกรรมหนัก โดยปัจจุบันบริษัทได้ ขยายฐานลูกค้าขนส่งไปยังตลาดเครื่องดื่มรายใหญ่ทั้งขนส่งในประเทศและส่งออก รวมทั้งขนส่งข้าวสารออกไปยังต่างประเทศ
แผนการลงทุนของกลุ่ม B เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ที่โฟกัสในกลุ่มโดยให้โฟกัส 2 ธุรกิจหลักคือ กลุ่มธุรกิจขนส่งและ โลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Logistics และธุรกิจสาธารณูปโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือ Green Utilities ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากบริษัทได้เล็งเห็นถึงการเติบโตของคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจและผลการดำเนินงานในอนาคต