สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) มีแนวปฏิบัติในการเปิดเผยข้อมูลของกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (Sustainable and Responsible Investing Fund : SRI Fund) เพื่อส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใส และทำให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลที่เพียงพอประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ประกาศความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการมีธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วโลก ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาตลาดทุนไปสู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs)
สำนักงาน ก.ล.ต. จึงได้ออกประกาศเพื่อให้ บลจ. มีแนวปฏิบัติในการเปิดเผยข้อมูลของ SRI Fund เช่น วัตถุประสงค์การลงทุนที่เกี่ยวกับความยั่งยืน เป้าหมายด้านความยั่งยืนที่กองทุนรวมต้องการบรรลุ กลยุทธ์การลงทุน กระบวนการวิเคราะห์และคัดเลือกหลักทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งช่วยให้เกิดความโปร่งใส ลดความเสี่ยงด้านการฟอกเขียว (greenwashing) และสะท้อนการลงทุนอย่างยั่งยืนของกองทุนรวม อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ในการประกอบการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุน
อนึ่ง การฟอกเขียว (greenwashing) หมายถึง การทำให้ผู้ลงทุนเกิดความเข้าใจผิดว่ากองทุนรวมนั้นเป็นกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน โดยที่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า "ความสนใจในประเด็นเรื่อง ESG มิได้เป็นเรื่องที่ผู้ลงทุนเฉพาะกลุ่มให้ความสนใจอีกต่อไป แต่กลายเป็นเรื่องปกติที่ผู้ลงทุนในวงกว้าง ให้ความสำคัญมากขึ้น ก.ล.ต. จึงมีความพยายามในการสร้างระบบนิเวศของตลาดทุนไทยให้พร้อมรองรับ เพื่อส่งเสริมให้ตลาดทุนเติบโตอย่างยั่งยืน
โดยการออกประกาศรองรับ SRI Fund ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในแผนการดำเนินการภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ของ ก.ล.ต. ที่มุ่งหมายให้ตลาดทุนไทยได้รับโอกาสจากกระแส ESG โดยมีระบบนิเวศในตลาดทุนที่พร้อมรองรับและเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนให้ บลจ. ผนวก ESG เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ และเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวตามมาตรฐาน เพื่อขับเคลื่อนการจัดสรรเงินทุนไปสู่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลต่อไป"