นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บมจ.ณุศาศิริ (NUSA) และ กรรมการบริหาร บริษัท ณุศา-ซีเอสอาร์ จำกัด (NUSA-CSR) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับรูปแบบการพัฒนาเลเจนด์ สยาม พัทยา สู่เมืองท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์ ภายใต้การบริหารของ NUSA-CSR ด้วยทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท ซึ่ง NUSA และ นายอุดม หวัง พันธมิตรชาวจีน ร่วมถือหุ้นฝ่ายละ 40% และที่เหลืออีก 20% เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย เพื่อรุกธุรกิจท่องเที่ยวเชิงเกษตร รวมถึงผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชง-กัญชา และผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย โดยมีเป้าหมายที่จะนำประเทศไทยให้ไปสู่เศรษฐกิจใหม่
เบื้องต้นบริษัทได้เปิดตัว ต้นไม้มหัศจรรย์ (มิราเคิล ทรี) ซึ่งบริษัทได้ลงทุนพื้นที่และปลูกเมล็ดพันธุ์ไปแล้ว พร้อมเครื่องจักรที่มีความสามารถในการสกัดสารที่มีประโยชน์ออกมาจากพืชสีเขียว บริษัทได้ทำการวิจัยและออกแบบผลิตภัณฑ์จากกัญชากัญชง และเพื่อให้ทุกคนสามารถร่วมเป็นเจ้าของต้นไม้
โดยในวันที่ 20 เม.ย.ซึ่งเป็นวันกัญชาโลก บริษัทเตรียมเปิดให้จองในราคา 10,000 บาทต่อ 1 ต้น จองได้ไม่เกินคนละ 10 ต้น จำกัดเพียง 400,000 ต้น โดยใน 10,000 บาทนั้นจะได้สิทธิประโยชน์กลับไปมูลค่ากว่า 75,000 บาท นอกจากจะได้เป็นเจ้าของต้นไม้แล้ว ยังจะได้รับ NMYZ TOKEN จำนวน 10,000 เหรียญ ซึ่งเป็น Utility Token ที่สามารถนำไปแลกซื้อผลิตภัณฑ์จากมิราเคิลช้อปได้ 20,000 บาท (มูลค่า 1 โทเคน เท่ากับ 2 บาท) ยังได้สิทธิถือ NFT Miracle Club มูลค่า 20,000 บาท นอกจากนี้ยังได้ร่วมเป็นสมาชิก Miracle wealth โดยอัติโนมัติ
"เราเสนอให้ทุกคนที่ซื้อต้นไม้มหัศจรรย์ ซึ่งชื่อของเจ้าของต้นไม้จะถูกบรรจุเข้าในแผนการสร้างรายได้แบบไร้ขีดจำกัดของ NUSA-CSR ด้วยโมเดลทางธุรกิจที่จะทำให้ทุกคนมีรายได้ตลอดชีวิต"
นางศิริญา กล่าวว่า บริษัทคาดหวังรายได้ปีแรกของ NUSA-CSR ในปีนี้ที่ 5,000 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากการปลูกกัญชง-กัญชา ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการปลูกแล้ว, รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมถึงกัญชง-กัญชา รวมถึงชุดตรวจ ATK
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 2 จะเริ่มมีวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากกัญชง-กัญชา ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สกินแคร์ เป็นต้น รวมถึงยังมีรายได้จากแพลตฟอร์ม Morhello ที่จะเข้ามาเป็นช่องทางการขายผลิตภัณฑ์ของบริษัท และรายได้จากการเข้าชมเมืองมหัศจรรย์ ในโครงการ เลเจนด์ สยาม พัทยา ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว และในวันที่ 1 เม.ย.นี้ ได้เปิดอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ บริษัทยังตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปี จะแยก บริษัท NUSA-CSR จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งเจ้าของต้นไม้มหัศจรรย์ยังได้สิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มครั้งแรก (IPO) ด้วย
"โครงการลงทุนในต้นไม้มหัศจรรย์ของเราสามารถที่จะไปช่วยตอบโจทย์ในเรื่องธุรกิจเสริมอาชีพหลักของคุณได้ผ่านโลกดิจิทัล และที่สำคัญทุกๆ คนสามารถเติบโตไปพร้อมๆ กันกับเรา เพราะเราอยากให้ทุกคนมั่งคั่งไปพร้อมกัน" นางศิริญา กล่าว
ด้านนางสาวชวนา กีรติยุตอมรกุล ผู้บริหารฝ่ายการตลาด NUSA-CSR กล่าวเพิ่มเติมว่า Eco-system ของ NUSA ครอบคลุมทุกเรื่องของไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าเป็นการแพทย์ การท่องเที่ยว และการพักผ่อนหย่อนใจ ผู้เป็นเจ้าของ NMYZ TOKEN จะสามารถใช้บริการโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว และศูนย์การแพทย์ ที่อยู่ภายใต้ณุศาศิริ แบบพิเศษกว่าใคร ทั้งราคาพิเศษและเงื่อนไขพิเศษ
นอกจากนั้นเรายังออกแบบให้ Nusa token ดูแลไปถึงการมีแพทย์ Morhello ประจำบ้าน เพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของต้นไม้มหัศจรรย์ได้มีแพทย์ทางไกลคอยดูแลอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้สิทธิถือ NFT Miracle Club มูลค่า 20,000 บาท ซึ่งประสบการณ์แบบมั่งคั่งทั้งเรื่องรายได้และสุขภาพถูกออกแบบมา เพื่อให้ทุกๆ คนที่เป็นเจ้าของต้นไม้ได้ใช้