RPC คาดใช้เงินลงทุน 3-4 พันลบ.สร้างโรงกลั่นใหม่ในปท.สรุปภายในปีนี้

          บมจ.ระยองเพียวริไฟน์(RPC) เตรียมแผนงานตั้งโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหม่ขึ้นในประเทศ คาดว่าจะได้ข้อสรุปสถานที่ตั้งภายในปีนี้ จะใช้เงินลงทุนประมาณ 3-4 พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าธุรกิจเทรดดิ้งภายในปีนี้มองตลาดรัสเซีย-อาฟริกา ขณะที่การผลิตไบโอดีเซลจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนก.ค.นี้ ก่อนเดินเครื่องเต็มที่ในปี 53 ซึ่งจะทำกำไรได้ถึง 175 ล้านบาท
          นายศุภพงษ์ กฤษณกาญจน์ ประธานกรรมการบริหาร RPC กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาสถานที่ก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหม่ โดยให้ความสนใจพื้นที่แถบชายทะเล โดยเฉพาะ จ.เพชรบุรี เป็นพิเศษ โดยเงินทุนที่ใช้ในการก่อสร้างราว 3-4 พันล้านบาทอาจมาจากการออกหุ้นกู้ หรือเพิ่มทุน หรือกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 
          "เราไม่กังวลเรื่องเม็ดเงินลงทุน เนื่องจากเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีทางเลือกหลากหลายที่จะลงทุน เราก็มี cash flow เหลืออยู่ 1.4 พันล้านบาท และปัจจุบันเรามี D/E แต่ 0.6 เท่า หากจะเพิ่มเป็น 3.5 เท่าก็ไม่น่าเกลียดสำหรับธุรกิจโรงกลั่น"นายศุภพงษ์ กล่าว 
          การจัดตั้งโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหม่จะช่วยเพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันโดยรวมของบริษัทขึ้นเป็น 3.5 หมื่นบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1.7 หมื่นบาร์เรล/วัน และสามารถนำคอนเดนเสท เรสซิดิว(CR) ที่ขณะนี้ซื้อจาก บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์(PTTAR)มาใช้ร่วมกันได้เพื่อให้ได้ผลผลิตเป็นน้ำมันและเคมีภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
          สำหรับโรงงานผลิตไบโอดีเซลของบริษัทในเครือที่มีกำลังผลิต 3 แสนลิตร/วันนั้น คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนก.ค.นี้ที่ประมาณ 1.5 แสนลิตร/วัน และจะทำกำไรในปีแรกประมาณ 25 ล้านบาท และภายใน 3 ปีข้างหน้ากำไรจะเพิ่มขึ้นเป็น 175 ล้านบาทเมื่อมีการผลิตเต็มกำลังในปี 53
          นายศุภพงษ์ กล่าวว่า บริษัทไม่มีความกังวลเรื่องปริมาณผลผลิตปาล์มที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไบโอดีเซลที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการเจรจาซื้อวัตถุดิบปาล์มสำรองไว้แล้ว แม้จะยอมรับว่าการที่รคาพุ่งแรงอาจทำให้มาร์จิ้นลดลงไปบ้าง แต่คงไม่มากนัก 
          นอกจากนั้น ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะเริ่มธุรกิจเทรดดิ้งในต่างประเทศได้ ซึ่งจะมีทั้งการซื้อผลิตภัณฑ์จากนอกประเทศมาจำหน่ายในประเทศ ซื้อจากนอกประเทศและจำหน่ายนอกประเทศ โดยประเทศที่จะเข้าไปเริ่มทำเทรดดิ้ง คือ รัสเซีย อาฟริกา 
          นายศุภพงษ์ กล่าวว่า ในปี 51 กำไรจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนรายได้น่าจะเพิ่มจากปีก่อนเล็กน้อยที่มีรายได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะมาจากธุรกิจไบโอดีเซลเป็นหลัก