นายโรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) กล่าวว่า บริษัทคาดจะสามารถสรุปความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยจะเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้กับนักลงทุนได้ทราบภายในเดือนเม.ย.นี้
ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบัน บริษัทได้ดำเนินการนำน้ำมันออกจากระบบ SPM เรียบร้อยแล้ว โดยนำท่อน้ำมันใต้ทะเลขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยเมื่อวันที่ 2 เม.ย.65 ซึ่งปฏิบัติการในขั้นตอนนี้ ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการเก็บกู้ท่อน้ำมันใต้ทะเลที่รั่วไหล ซึ่งยืนยันได้ว่าขณะนี้ไม่มีน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณ SPM เนื่องจากไม่พบการรั่วไหลเพิ่มเติมของน้ำมันดิบแล้ว
"ขอเน้นย้ำว่าปฏิบัติการในครั้งนี้มีความซับซ้อนและมีความท้าทายในหลายๆ ด้าน ซึ่งการทำงานในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี เพราะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีและการปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง"นายโรเบิร์ต โดบริค กล่าว
ส่วนความคืบหน้าของการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลผระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น นับตั้งแต่เกิดเหตุ SPRC ได้ร่วมกับจังหวัดระยองเพื่อจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมรับข้อเรื่องร้องเรียน โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มอาชีพต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบมาลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ ซึ่งพบว่ามีจำนวนมากถึง 14,310 ราย และได้ดำเนินการจ่ายเงินอย่างรวดเร็ว จนถึงวันนี้ บริษัทได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ได้ลงทะเบียนรับสิทธิไปแล้วกว่า 5,600 ราย รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นกว่า 180 ล้านบาท
ขณะนี้บริษัทยังคงดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องให้กับกลุ่มต่างๆ โดยจะดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรม สมเหตุสมผล และรวดเร็ว ตลอดจนช่วยให้ชาวระยองกลับมาใช้ชีวิตตามวิถีปกติอีกครั้ง อย่างไรก็ตามคาดว่ากระบวนการจ่ายเงินชดเชยจะเสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้
"นอกเหนือจากมาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือที่ SPRC ให้ความสำคัญมาโดยตลอด บริษัทฯ ยังได้เตรียมแผนจัดกิจกรรมสนับสนุนชุมชนในระยะยาว โดยกิจกรรมต่างๆ จะถูกจัดขึ้นเพื่อฟื้นฟูแหล่งที่อยู่ของสัตว์น้ำใต้ทะเล ในขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ไปพร้อมกับฟื้นฟูภาพลักษณ์ของชุมชน อาทิ กิจกรรมวิ่งการกุศล "SPRC Run for You & Sea" ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ค.65 กิจกรรมส่งเสริมด้านการศึกษา อย่างเช่น โครงการ Youth Bloggers ซึ่งเยาวชนจะได้เรียนรู้การเขียนบทความเพื่อเผยแพร่บนเว็บไซต์
และการถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว การเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียล เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง ซึ่งในปัจจุบันมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยกิจกรรมทั้งหมดจะดำเนินการควบคู่ไปกับการสำรวจความคิดเห็นและความพึงพอใจของพี่น้องชาวระยองอย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์สูงสุด ตามความมุ่งมั่นในการสนับสนุนชุมชนที่ SPRC มีความสัมพันธ์ที่ดีด้วยมาอย่างยาวนาน" นายโรเบิร์ต กล่าว
ด้านนายพงษ์กรณ์ ช่อชูวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารระบบความปลอดภัย คุณภาพสิ่งแวดล้อม และอาชีวอนามัย SPRC กล่าวว่า บริษัทได้ทำงานโดยทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน ชายฝั่งทะเล และสิ่งแวดล้อมทางทะเลน้อยที่สุด ได้ดำเนินการติดตามและประเมินคุณภาพน้ำทะเล ตะกอนดิน สภาพพื้นที่ชายหาด และคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน จากการประเมินคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ SPRC ได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถยืนยันได้ว่า ณ ปัจจุบัน คุณภาพน้ำทะเล ตะกอนดินชายฝั่งทะเล และค่า VOC ในบรรยากาศ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่มีความปลอดภัย
จากผลการประเมินดังกล่าว หมายความว่าประชาชนสามารถทำกิจกรรมนันทนาการที่ชายหาด และในน้ำทะเลได้อย่างปลอดภัย และรวมถึงสามารถบริโภคอาหารทะเลได้อย่างปลอดภัยด้วย ทั้งนี้บริษัทฯ ยังเดินหน้าดำเนินการในขั้นตอนการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม โดยจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย เพื่อพัฒนาแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมสำหรับการดำเนินการทั้งในระยะกลางและระยะยาว