นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย(KTB) เปิดเผยว่า KTB เตรียมขายตราสารด้อยสิทธิเพื่อนับเป็นเงินกองทุนประเภทที่ 2 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน วงเงิน 15,000 ล้านบาท และมีตราสารสำรองไว้เสนอขายเพิ่มเติม 5,000 ล้านบาท รวมไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเงินกองทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รองรับการขยายตัวของธุรกิจ
โดยธนาคารมีสิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนดได้หลังจาก 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสาร หรือตามที่เงื่อนไขกำหนด เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ที่ทุกสาขาทั่วประเทศ สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่จองซื้อขั้นต่ำ 1 ล้านบาท และเพิ่มทวีคูณครั้งละ 1 แสนบาท ผู้ลงทุนสถาบันจองซื้อขั้นต่ำ 1 ล้านบาท และเพิ่มทวีคูณครั้งละ 1 หมื่นบาท เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 7-11 เมษายน 2565
การออกตราสารด้อยสิทธิเพื่อนับเป็นเงินกองทุนประเภทที่ 2 ของธนาคารในครั้งนี้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเงินกองทุน รวมถึงบริหารสภาพคล่องและใช้ในการดำเนินงานทั่วไป รองรับการขยายตัวของธุรกิจ ซึ่งตราสารดังกล่าวเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้กับลูกค้า โดยตราสารเงินกองทุนชุดนี้ จะนับเป็นเงินกองทุนประเภทที่ 2 ซึ่งมีข้อกำหนดให้สามารถตัดเป็นหนี้สูญ (ทั้งจำนวนหรือบางส่วน) เมื่อทางการตัดสินใจเข้าช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ออกตราสารเงินกองทุน
สำหรับฐานะการเงินของธนาคารมีความแข็งแกร่ง โดยผลการดำเนินงานปี 2564 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารอยู่ที่ 21,588 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง (งบเฉพาะธนาคาร) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 อยู่ที่ 19.88% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กำหนด
นอกจากนี้ ธนาคารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ AAA(tha) แนวโน้มมีเสถียรภาพ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 และอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารอยู่ที่ระดับ AA(tha) แนวโน้มมีเสถียรภาพ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565