บมจ.โปรเอ็น คอร์ป (PROEN) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างและจ้างก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควีกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 2 โครงการ
สัญญาที่ 1 สัญญาจ้างเหมาก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี ของ กฟภ. ซึ่งผู้รับจ้างได้แก่ กิจการค้าร่วม เอสทีเอ็น แอนด์โปรเอ็น (ประกอบด้วย PROEN และ บริษัท สยามธรรมนนท์ จำกัด) ก่อสร้างสายส่งระบบ 115เควี สถานีไฟฟ้าท่าแซะ - สถานีไฟฟ้าปะทิว จังหวัดชุมพร ตามโครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่ายระยะที่ 2 มูลค่างาน 185,770,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่ายอื่น กำหนดเวลาแล้วเสร็จ ภายใน 360 วัน
สัญญาที่ 2 สัญญาจ้างเหมาก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี ของ กฟภ.ผู้รบจ้าวคือ PROEN จะก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควีช่วงสถานีไฟฟ้ากำแพงแสน - สถานีไฟฟ้าท่ามะกา 2 (ชั่วคราว) จังหวัดนครปฐม ตามโครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่าย ระยะที่ 2 แผนงานที่ 1 มูลค่างาน 36,931,562.53 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่ายอื่น กำหนดเวลาแล้วเสร็จ ภายใน 360 วัน
นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PROEN กล่าวว่า การได้งานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทฯ มีศักยภาพในการรับงานอย่างต่อเนื่อง และช่วยสนับสนุนให้มูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) ปัจจุบันเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1,069.93 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 1 ปี ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังเดินหน้าประมูลงานใหม่เข้ามาอีกจำนวนมาก
ทั้งนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/65 คาดว่าจะเติบโตดี เนื่องจากบริษัทมีศักยภาพในการให้บริการ Co-location ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ใหม่ และบริการที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 65 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน โดยเน้นกลยุทธ์การเติบโตจะมาจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม รวมทั้งการควบรวม และเข้าซื้อกิจการ (M&A) เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการประเภทธุรกิจดาต้า เซ็นเตอร์ และอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไป ขณะเดียวกันจะมุ่งเน้นการรุกขยายธุรกิจใหม่อย่าง ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เต็มพิกัด
ล่าสุดในไตรมาส 1/65 บริษัทฯ ได้มีการจัดจำหน่ายเครื่องขุดเหรียญ Crypto และเพิ่มบริการรับฝากวางเครื่อง (เฉพาะรุ่น) พร้อมบริการดูแลเครื่องขุดหลังการขาย และบริการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งได้เข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด คาดว่าจะเป็น New S-Curve หรือธุรกิจที่ช่วยผลักดันการเติบโตได้อย่างโดดเด่น และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต