นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) กล่าวว่า กลุ่มทรู เดินหน้ายกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่การเป็นเทคคอมปานี พร้อมพัฒนาเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ที่เร็ว ครบ แรงล้ำ นำไปสู่การพลิกโฉมทุกมิติการใช้ชีวิต รวมทั้งภาคธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกหุ้นกู้ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด หรือ TUC ครั้งที่ 1/2565 เสนอขายนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ โดยจะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้ครั้งนี้ไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมของสถาบันการเงินและหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนบางส่วน
โดยหุ้นกู้และบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB+ และมีแนวโน้มเครดิต "คงที่" จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565
ทั้งนี้ คาดว่า สำนักงาน ก.ล.ต. จะประกาศให้แบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนมีผลใช้บังคับในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2565
หุ้นกู้ TUC ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ คาดว่าจะเปิดให้ผู้ลงทุนสถาบันและ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่จองซื้อและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ราวกลางเดือนพฤษภาคม 2565 กำหนดมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท จำนวน 3 ชุด ดังนี้
1. หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [2.85-3.00]% ต่อปี
2. หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.25-3.40]% ต่อปี
3. หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.60-3.75]% ต่อปี
โดยเปิดจองซื้อผ่านธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และบล.เกียรตินาคินภัทร โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้