ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ (17 มี.ค.) หลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากข่าวที่ว่าแบร์ สเติร์นส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 5 ของสหรัฐ ขาดสภาพคล่อง ทำให้ต้องขอวงเงินกู้ฉุกเฉินจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์สินเชื่อยังไม่สิ้นสุดลง
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ณ เวลา 9.05 น.ตามเวลาท้องถิ่น (8.05 น.ตามเวลาประเทศไทย) ดัชนีสเตรทส์ไทม์ลดลง 65.20 จุด หรือ 2.3% แตะระดับ 2,773.81 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 194.65 จุด หรือ 1.60% แตะระดับ 11,951.09 จุดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่มีข่าวว่า แบร์ สเติร์นส์ ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 5 ของสหรัฐยอมรับว่า บริษัทขอรับเงินกู้ฉุกเฉินจาก เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เนื่องจากขาดสภาพคล่อง
เจพีมอร์แกนและเฟดสาขานิวยอร์ก ยืนยันว่าพร้อมที่จะร่วมมือกันปล่อยเงินกู้ฉุกเฉินให้กับแบร์ สเติร์นส์เป็นระยะเวลาขั้นต้น 28 วัน เพื่อกอบกู้สถานะและความเชื่อมั่นของแบร์ สเติร์นส์ ซึ่งต่อมาเจพีมอร์แกน เปิดเผยว่า ทางบริษัทตัดสินใจเข้าซื้อกิจการของของแบร์ สเติร์นส์เป็นวงเงิน 236.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการปิดตำนานหนึ่งในวาณิชธนกิจรายใหญ่ที่สุดของโลก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เฮดจ์ฟันด์ 2 แห่งที่แบร์ สเติร์นส์บริหารอยู่ขาดทุนเป็นวงเงินหลายพันล้านดอลลาร์ หลังจากเข้าไปลงทุนในตลาดซับไพรม์ สะท้อนให้เห็นว่าวิกฤตการณ์สินเชื่อได้ส่งผลกระทบต่อบรรดาธนาคารพาณิชย์และโบรกเกอร์ต่างๆทั่วโลก
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการช่วยให้ตลาดมีเสถียรภาพและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อ เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงมาสู่ระดับ 3.25% จาก 3.50% ก่อนที่จะมีการประชุมเฟด (FOMC) ในวันอังคารนี้ ซึ่งมีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับลดดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลงอีกอย่างมากที่สุด 0.75%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--