ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 65 และ 66 เหลือ 3.6% มองว่าส่งผลกระทบต่อภูมิภาคอาเซียนไม่มาก
และการเปิดประเทศ ยังเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยให้จับตาดูการประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันศุกร์นี้ (22 เม.ย.65) ว่าจะมีมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างไร
นอกจากนี้ยังมองผลประกอบการของหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ในไตรมาส 1/65 กำไรน่าจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยหนุนตลาดฯ ได้ในเวลานี้ อย่างไรการลงทุน แนะนำยังสามารถเก็งกำไรได้ ในหุ้นรายกลุ่ม รายตัว โดยชอบหุ้นกลุ่มโรงแรม ค้าปลีก การแพทย์ โรงกลั่น และน้ำมัน
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ยังเคลื่อนไหวทรงตัว
ให้แนวรับ 1,670 จุด และแนวต้าน 1,685 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (19 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,911.20 จุด พุ่งขึ้น 499.51 จุด หรือ +1.45%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,462.21 จุด เพิ่มขึ้น 70.52 จุด หรือ +1.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,619.66 จุด เพิ่มขึ้น 287.30 จุด หรือ +2.15%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,210.79 จุด เพิ่มขึ้น 225.7 จุด หรือ +0.84% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,189.89 จุด ลดลง 4.14 จุด หรือ -0.13% และตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,972.84 จุด ลดลง 54.92 จุด หรือ -0.26%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 เม.ย.) ที่ระดับ 1,675.62 จุด เพิ่มขึ้น 7.56 จุด, +0.45%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,174.47 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 เม.ย.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.(19 เม.ย.) ร่วงลง 5.65 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 102.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 เม.ย.) อยู่ที่ 18.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.85 แนวโน้มอ่อนค่าต่อ ให้กรอบเคลื่อนไหววันนี้ 33.70-34.00
- "ไฮเน็คกี้" หัวเรือใหญ่ เครือไมเนอร์ อินเตอร์ฯ ร่อนจดหมายถึงนายกฯ จี้ปลดล็อกข้อจำกัดการเดินทาง ยกเลิกระบบ "ไทยแลนด์พาส" และมาตรการ Test & Go ปูพรมสู่ "ยุคเปิดประเทศเต็มรูปแบบ" ฟื้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยว งัดข้อชิงความได้เปรียบแข่งนานาประเทศ ด้าน "สทท." กาง 3 ซีนาริโอปี 65 ชี้ต้องได้นักท่องเที่ยว ต่างชาติ ฟื้นตัว 40% หรือ อย่างน้อย 16 ล้านคน อุ้มผู้ประกอบการให้อยู่รอด
- กระทรวงสาธารณสุข ชง ศบค. 22 เม.ย.นี้ ผ่อนคลาย เทสต์แอนด์โก ปรับพื้นที่ สีจังหวัด ลุ้นยกเลิก "ไทยแลนด์ พาส" นายกฯ เผยหลังสงกรานต์ คือ การเริ่มต้นใหม่ สั่งเร่งแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ลงทุนส่งออก เปิดเวทีถกภาคธุรกิจ พ.ค. เผย 1 ก.ค.เตรียมมาตรการผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศ ขณะที่สหรัฐถอดไทยออกจากประเทศเสี่ยงโควิดห้ามเดินทาง
- "พลังงาน" เผย 1 พ.ค.ลดอุ้มดีเซล รัฐจ่ายส่วนที่เกิน 30 บาท เพียง 50% หลังกองทุนน้ำมัน ต้องอุดหนุนลิตรละ 11.21 บาท ชี้เงินเฟ้อ-ค่าขนส่งพุ่ง "สุพัฒนพงษ์" สั่งหาแนวดูแล คาดปรับขึ้นเป็น ขั้นบันได เริ่มต้นราคา 32 บาท มั่นใจกองทุนน้ำมัน กู้เงินได้ มิ.ย.นี้
- นายกฯ ห่วงประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย สั่งออกมาตรการช่วยเหลือ เร่งคนละครึ่ง เฟส 5 อยู่ ด้าน "สุพัฒนพงษ์" เผยเดือน พ.ค.อาจช่วยอุดหนุนดีเซลในส่วนที่เกินลิตรละ 30 บาท มากกว่าที่ประกาศไว้ 50% ขณะที่ ครม.ปรับมาตรการลดค่าเอฟทีให้บ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก และขยายการช่วยเหลือค่าน้ำมันมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ให้ครอบคลุมทั้งกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์
- สบน.ออกโรงแจงประเด็นก่อหนี้สูง ประเทศเสี่ยงล้มละลาย ระบุเป็นไปเพื่อรองรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และความจำเป็นในการเยียวยาจากสถานการณ์โควิดฯ ยันการจัดทำแผนก่อหนี้พิจารณาอย่างละเอียด-เคร่งครัด ทั้งด้านต้นทุน-ระยะเวลาชำระคืน และระดับหนี้สาธารณะในปัจจุบันไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางการคลัง-ไม่อยู่ในความเสี่ยงที่จะล้มละลาย โชว์มูดีส์ยังจัดอันดับเครดิต BBB+
- ILINK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" เป้าหมาย 12 บาท มองบวกต่อกำไรปี 2565 จากธุรกิจ Distribution จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโครงข่ายและความต้องการใช้อินเตอร์เน็ตที่รวดเร็วและเสถียร ทำให้มีความต้องการ Cabling ซึ่ง ILINK มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ขณะเดียวกัน ITEL จะฟื้นหลังถูกกระทบจากโควิด และได้ Strategic partner รุกธุรกิจ Data center คาดกำไรสุทธิปี 2565-2566 +16% Y-Y และ +15% Y-Y ตามลำดับ และมี Upside ราว 15% ต่อปีใน 2 ปีข้างหน้าหากชนะงานประมูลก่อสร้างสายเคเบิ้ลใต้น้ำไปยังเกาะเต่า มูลค่ากว่า 1 พันลบ. มีผลต่อราคาเป้าหมายราว 1.2-1.4 บาท/หุ้น
- IVL (กรุงศรี)"ซื้อ" เป้า 60 บาท คาด IVL จะมีกำไรไตรมาส 1/65 ประมาณ 9.2 พันล้านบาท (EPS 1.64 บาท), +71% qoq, +54% yoy หนุนจากปริมาณขายและอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อเทียบกับการสูงขึ้นของต้นทุนการผลิต
- SAPPE (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" เป้าหมาย IAA Consensus 32.00 บาท ภาพรวมปี 65 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้เติบโต 15% เป็นการเติบโตจากตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ O2O Marketing ทำกิจกรรมทางการตลาดในภูมิภาคเอเชีย ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้บริโภค ขณะที่ในตลาดยุโรปได้เพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้น ส่วนปัญหาตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางเรือไม่ได้มีผลกระทบมากเพราะมีการ บริหารจัดการกับคู่ค้าไว้ล่วงหน้า สำหรับตลาดในประเทศเน้นการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับพาร์ทเนอร์ และควบคุมต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงมี Cost Saving Projects ต่างๆ เพื่อลดผลกระทบด้านต้นทุนในภาพรวม