ข่าว"โกลด์แมน แซคส์"เล็งลดมูลค่าสินทรัพย์ ฉุดฮั่งเส็ง-นิกเกอิดิ่งหนัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 17, 2008 11:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลงกว่า 500 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลงไปกว่า 1,000 จุดในช่วงเช้านี้ (17 มี.ค.) หลังจากสำนักข่าวเทเลกราฟของอังกฤษรายงานว่า วาณิชธนกิจโกลด์แมน แซคส์ อาจต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์เป็นวงเงินมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ 
ทั้งนี้ ณ เวลา 10.36 น.ตามเวลาฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลง 1,141.89 จุด หรือ 5.2% แตะระดับ 21,097.20 จุ ขณะที่ดัชนีนิกเกอิดิ่งลง 514.61 จุด หรือ 4.2% แตะระดับ 11,726.99 จุด
สำนักข่าวเทเลกราฟของอังกฤษรายงานว่า วาณิชธนกิจโกลด์แมน แซคส์ อาจต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์เป็นวงเงินมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการปรับลดสินทรัพย์ในวงเงินสูงสุดจนถึงขณะนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมูลค่าหุ้นที่โกลด์แมน แซคส์ ถืออยู่ในบริษัทอินดัสเทรีล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงค์ ออฟ ไชน่า (ICBC) จำนวน 4.9% นั้น ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ยังได้รับผลกระทบจากการขาดทุนในธุรกิจปล่อยกู้เป็นวงเงิน 1.6 พันล้านดอลลาร์
ราคาหุ้น ICBC ซึ่งเคยทำสถิติหุ้น IPO ที่มีราคาสูงสุดในโลกเมื่อปี 2549 ร่วงลงไปกว่า 14% เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยโกลแมน แซคส์เข้าลงทุนมูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์ใน ICBC ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีน
ทั้งนี้ คาดว่าโกลด์แมน แซคส์ จะปรับลดมูลค่าสินทรัพย์อีก 1.1 พันล้านดอลลาร์เนื่องจากมูลค่าสิทรัพย์ในธุรกิจหลักๆปรับตัวลดลง
นักวิเคราะห์ของสำนักข่าวเทเลกราฟเชื่อว่า แม้โกลด์แมน แซคส์ได้รับความเสียหายเป็นวงเงินหลายพันล้านดอลลาร์ แต่คาดว่าในการรายงานผลประกอบการวันอังคารที่ 18 มี.ค.นี้ โกลด์แมน แซคส์จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนด้วยการออกแถลงการณ์ว่า ตัวเลขการขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองของโกลด์แมน แซคส์ มีอยู่ไม่มากนัก
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน กระแสข่าวที่คาดว่าโกลด์แมน แซคส์จะปรับลดสินทรัพย์ครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากแบร์ สเติร์นส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 5 ของสหรัฐ ประสบปัญหาขาดแคลนสภาพคล่องอย่างหนัก จนต้องยื่นขอวงเงินกู้ฉุกเฉินจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก จนเป็นเหตุให้เกิดความตื่นตระหนกในตลาดวอลล์สตรีท และทำให้ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ตกลงซื้อกิจการแบร์ สเติร์นส์ ในราคาหุ้นละ 2 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นวงเงินรวม 236.2 ล้านดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ