กลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ของ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) เตรียมดำเนินการยื่นขอรับชำระหนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 20 เม.ย.65 ศาลล้มละลายมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด EARTH ในคดีที่เจ้าหนี้หุ้นกู้ 2 รายได้ยื่นฟ้องล้มละลายรวม 2 คดีเป็นคดีหมายเลขดำที่ ล.2694/2563 และคดีหมายเลขดำที่ ล.2695/2563 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.63
แหล่งข่าวจากกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ EARTH เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ได้รับหนังสือแจ้งจากบริษัทที่เป็นผู้เสนอขายหุ้นกู้ของ EARTH ว่า หลังจากศาลฯ มีคำสั่งสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด EARTH จะส่งผลให้อำนาจในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของ EARTH ทั้งหมดตกอยู่ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะรวบรวมทรัพย์สินทั้งหมดของ EARTH ด้วยการยึดอายัดทรัพย์สินของ EARTH ไว้และนำออกขายทอดตลาดต่อไป และจะเฉลี่ยเงินทั้งหมดที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินให้แก่เจ้าหนี้ทุกรายที่ได้ยื่นขอรับชำระหนี้ไว้ตามสัดส่วนหนี้แต่ละรายจากกองทรัพย์สินของ EARTH (ยกเว้นหนี้จำนองและหนี้บุริมสิทธิ์ ซึ่งเจ้าหนี้จำนองและเจ้าหนี้บุริมสิทธิ์จะได้รับชำระหนี้จากหลักประกันก่อน)
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ศาลล้มละลายกลางจะมีคำพิพากษาให้ EARTH ล้มละลาย EARTH สามารถยื่นคำขอประนอมหนี้ก่อนได้ โดยเสนอเงื่อนไขที่คาดว่าจะสามารชำระคืนให้แก่เจ้าหนี้ได้ ทั้งนี้ หากที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติไม่รับคำขอประนอมหนี้ของ EARTH เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเสนอขอให้ศาลพิพากษาให้ EARTH ล้มละลายต่อไป
หรือหากศาลมีคำพิพากษาให้ EARTH ล้มละลายแล้ว EARTH ยังคงสามารถยื่นคำขอประนอมหนี้หลังล้มละลายให้เจ้าหนี้พิจารณาได้
อนึ่ง เจ้าหนี้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด หากเจ้าหนี้ไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในเวลาตามที่กฎหมายกำหนด จะส่งผลให้เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของ EARTH
ส่วนการดำเนินคดีแพ่งแบบกลุ่มตามที่สำนักงานกฎหมาย JC Inter Law ได้ยื่นฟ้อง EARTH ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้เป็นคดีผู้บริโภคพร้อมกับยื่นคำร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่ม ซึ่งศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ดำเนินคดีแบบกลุ่มแล้ว โดยล่าสุดศาลได้กำหนดวันนัดพร้อมในวันที่ 25 เม.ย.65 นั้น
เนื่องด้วยศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด EARTH ดังนั้น คู่ความต้องแถลงให้ศาลทราบว่าศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด EARTH แล้ว เพื่อให้ศาลออกหมายแจ้งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาว่าคดีแพ่งแทนจำเลย จากนั้นในทางปฏิบัติเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะแถลงต่อศาลว่าไม่ประสงค์จะเข้าว่าคดีแพ่งแทนจำเลย และขอให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีนี้เพื่อให้โจทก์หรือเจ้าหนี้มายื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แทน