นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 3 เดือน ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ประจำปี 2565 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2565 เท่ากับ 1,510.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148.48 ล้านบาท หรือ 10.90% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมจำนวน 16,672.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 839.96 ล้านบาท หรือ 5.31% โดยหลักมาจากรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งประกอบไปด้วยรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 15,760.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 708.53 ล้านบาท หรือ 4.71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
การเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีส่วนมาจากการฟื้นตัวของการบริโภคในภูมิภาคที่มีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยการฟื้นตัวจากนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก รวมถึงมาตรการภาครัฐโครงการช้อปดีมีคืนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายของลูกค้าบ้างในช่วงเดือนกุมภาพันธ์
นอกจากนี้ บริษัทมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทั้งช่องทางสาขา และช่องทางออนไลน์ โดยในไตรมาสที่ 1 มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพิ่มเติม Homepro Electric Expo ในขณะเดียวกัน รายได้จากช่องทางออนไลน์ยังคงเติบโตได้ดี
บริษัทยังมีรายได้จากค่าเช่าจำนวน 410.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.36 ล้านบาท หรือ 26.61% และมีรายได้อื่น ๆ จำนวน 500.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.07 ล้านบาท หรือ 9.89% โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าทั้งในช่องทางสาขา และช่องทางออนไลน์
สำหรับกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 4,096.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 223.42 ล้านบาท หรือ 5.77% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายก็เพิ่มขึ้นจาก 25.73% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 25.99% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าขายในกลุ่มของสินค้าที่มีอัตรากำไรเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้จากการบริการที่เพิ่มขึ้น แม้ต้นทุนค่าขนส่งจะสูงขึ้นก็ตาม
นายคุณวุฒิ กล่าวอีกว่า ในด้านการผลักดันยอดขาย ในไตรมาสที่ 1 นี้ บริษัทฯ ได้มีการจัดงาน Homepro Electric Expo ช่วงวันที่ 11 -20 มีนาคม 2565 ที่เป็นการจัดโปรแกรมส่งเสริมการขายเน้นสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งได้ช่วยสนับสนุนทั้งยอดขายสินค้าและบริการ รวมถึงรายได้จากพื้นที่เช่าในพื้นที่แสดงสินค้า นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากมาตรการ "ช้อปดีมีคืน" มีส่วนทำให้ภาพยอดขายของสาขาในประเทศมีการเติบโตขึ้น
ส่วนในด้านการพัฒนาประสิทธิภาพและการปรับตัว บริษัทฯ ยังคงพัฒนาประสิทธิภาพของช่องทางการขาย ทั้งช่องทางสาขา และช่องทางออนไลน์ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่องทางสาขาแล้ว ยังมีการจัดโปรโมชั่นต่างๆในช่องทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้ยอดขายในไตรมาสที่ 1 นี้ เติบโตขึ้นต่อเนื่อง
"ในด้านการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย ในไตรมาสที่ 1 นี้ จากภาวะต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับราคาพลังงานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้า ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขายและการบริหารให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาได้ จากการควบคุมและปรับปรุงประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ทั้งทางการบริหารสาขา และระบบ supply chain" นายคุณวุฒิ กล่าว