นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ที่ผ่านมา AIS Fibre ในฐานะผู้คิดนำ ทำก่อน ในทุกมิติ เชื่อมั่นเสมอว่า คุณภาพของเครือข่ายและงานบริการเป็นหัวใจสำคัญที่จะตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้อย่างยั่งยืน มากกว่าการแข่งขันด้วยราคา แต่ขาดการพัฒนานวัตกรรม เพราะวันนี้เราต่างใช้ชีวิตอยู่บน Online, On-Air แบบ Real time ตลอดเวลา ดังนั้นที่ผ่านมาเราจึงเป็นรายแรกและรายเดียวที่นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดมาให้บริการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น SpeedBOOST, Speed Toggle, Mesh Wi-Fi, การให้บริการภายใน 24 ชั่วโมง หรือ การยกระดับมาตรฐานความเร็วเน็ตบ้านไปที่ 2 Gbps ซึ่งนอกจากจะตอบสนองความต้องการผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมบรอดแบรนด์ของไทยให้เทียบเท่าระดับสากลอีกด้วย ซึ่งการที่จะทำงานในลักษณะนี้ได้ ต้องเกิดจากความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าอย่างแท้จริง และขีดความสามารถของทีมงาน ที่ทำงานอย่างใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ ตลอดจนความพร้อมด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา
โดยล่าสุด จากสถานการณ์โควิดที่แพร่ระบาดมากว่า 2 ปี และเราต่างเริ่มคุ้นชิน ปรับตัว ใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยมีเครื่องมือดิจิทัล โดยเฉพาะเครือข่ายบรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นอีก 1 ปัจจัยหลักให้สามารถทำงาน เรียน และสนุกกับ content ที่ชื่นชอบได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ซึ่งทีมวิศวกรของ AIS Fibre ได้เฝ้าติดตามรูปแบบการใช้งานของลูกค้าและพบว่า มีบริการ 3 กลุ่ม ที่ลูกค้าใช้งานเป็นประจำและต่อเนื่อง ที่มีความต้องการในเรื่องความเร็วและความเสถียรของสัญญาณ Wi-Fi ต่อเนื่องเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน ประกอบด้วย Game, Work & Learn Application และ Live & Streaming
จึงเป็นที่มาของการทุ่มเท คิดค้น วิจัย นำ Artificial Intelligent หรือ AI และ Machine Learning เข้ามาพัฒนาใน Router ให้สามารถบริหาร จัดการ data traffic แบ่งช่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบแยกท่อพิเศษ หรือ VIP Service ทั้งคำนวณการให้ลำดับความสำคัญในการเพิ่มสปีดความเร็วในการรับส่งข้อมูล และสามารถลดความหน่วง หรือ Latency ได้ถึง 50% อย่างมีประสิทธิภาพด้วยตัวเอง เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานให้สมาชิกในบ้านที่แม้จะใช้บริการต่างกัน แต่จะได้คุณภาพบริการที่สุดยอดต่อเนื่องเสมอ
สำหรับ Wi-Fi อัจฉริยะนี้ มาพร้อมกับ AI-powered Smart Router ซึ่งมีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้
- มีฟังก์ชัน AI ช่วยคัดแยกประเภทข้อมูลบริการ เพื่อจัดลำดับการใช้งานที่สำคัญภายในบ้าน
- เพิ่มความเร็วหน่วยประมวลผล (Network Processor) ให้สามารถจัดสรรปริมาณการใช้งาน (offload Wi-Fi traffic) พร้อมกับเพิ่มอัตราความเร็วของการใช้งานให้กับแอปพลิเคชันที่ถูกระบุเป็นลำดับสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เพิ่มความเร็วด้วยการผสานเทคโนโลยี Wi-Fi Slicing และ Wi-Fi Multimedia ที่เข้ามาช่วยลดค่า ความหน่วง (Latency) ช่วยให้ไม่เกิดสัญญาณค้างหรือกระตุก
ในเบื้องต้น Wi-Fi อัจฉริยะ สามารถบริหารแยกท่อการใช้งานครอบคลุมใน 3 กลุ่มบริการยอดนิยม ได้แก่
1. Game Application ได้แก่ ROV, League of Legends, Free Fire, PUBG Mobile, Call of Duty, Dota 2, World of Warcraft, Overwatch, Hearthstone, CSGO, Apex Legends, FIFA20 และ Mobile Legends
2. Work & Learn Application ได้แก่ ZOOM, Microsoft Teams, Webex และ Google Meet
3. Live & Streaming Application ได้แก่ YouTube, Facebook และ Tik Tok
เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า 3 กลุ่มหลัก ทั้งกลุ่ม Online Gamers ที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับความเร็ว และค่า Latency กลุ่มที่ Work & Learn Online ที่ต้องการคุณภาพความคมชัดของภาพและเสียง ตลอดจนความเสถียรในการใช้งานต่อเนื่อง และกลุ่มผู้ที่ใช้งานหลักๆ จำพวก Streaming หรือ Live สดขายของออนไลน์ ที่ต้องการคุณภาพ และความเสถียร ให้ทุกการ LIVE ไม่ขาดตอน สตรีมมิ่งไม่มีสะดุด
เราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้แนะนำนวัตกรรมล่าสุดนี้ให้แก่คนไทยเป็นรายแรกผ่าน แพ็กเกจ POWER4 Advance ที่จะมาพร้อมกับ อุปกรณ์รองรับเทคโนโลยี ใหม่ล่าสุด AI-powered Smart Router ให้ทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับแบบ VIP ไปกับ Wi-Fi อัจฉริยะ ที่มาแบบเต็มสปีด ด้วยเน็ตบ้านความเร็วดาวน์โหลด/อัพโหลดสูงสุดถึง 1000Mbps (1Gbps) พร้อมทั้งซิมมือถือ AIS 5G กล่อง AIS PLAYBOX และContent Package แบบครบครัน ในราคาสุดคุ้ม โดยเปิดลงทะเบียนแสดงความสนใจล่วงหน้าได้ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่ 1-9 พ.ค. 65 และพร้อมเปิดสมัครทุกช่องทางได้ทั่วประเทศวันที่ 10 พ.ค. 65 เป็นต้นไป