ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นกลุ่มการเงิน ฉุดฟุตซี่ปิดร่วง 217.3 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 18, 2008 08:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มการเงิน เนื่องจากข่าวการขายกิจการของแบร์ สเติร์นส์ ได้จุดปะทุให้เกิดความกังวลว่าอาจมีสถานบันการเงินรายอื่นๆที่ประสบปัญหาสภาพคล่องเช่นเดียวกับแบร์ สเติร์นส์
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดดิ่งลง 217.3 จุด แตะระดับ 5,414.4 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,414.4-5,631.7 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 3.11 พันล้านหุ้น
เมื่อวานนี้ เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ตกลงซื้อกิจการแบร์ สเติร์นส์ ในราคาหุ้นละ 2 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นวงเงินรวม 236.2 ล้านดอลลาร์ หลังจากแบร์ สเติร์นส์ ประสบปัญหาขาดแคลนสภาพคล่องอย่างหนัก จนต้องยื่นขอวงเงินกู้ฉุกเฉินจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก
เดวิด โจนส์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากไอจี อินเด็กซ์ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า "ข่าวขายกิจการของแบร์ สเติร์นส์ ทำให้รัฐบาลสหรัฐและเฟดยื่นมือเข้ากอบกู้วิกฤตการณ์ในตลาดการเงิน โดยเฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.25% เพื่อคลี่คลายความตื่นตระหนกในตลาด แต่ในทางกลับกัน การลดดอกเบี้ยของเฟดกลับทำให้นักลงทุนมองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐย่ำแย่เกินกว่าที่จะเยียวยาแค่การลดดอกเบี้ย"
หุ้นกลุ่มธนาคารในตลาดลอนดอนดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นธนาคาร HBOS ร่วงลง 67 เพนซ์ ปิดที่ 460 เพนซ์ หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดลดลง 40 เพนซ์ แตะระดับ 392 เพนซ์ และหุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 29 เพนซ์ ปิดที่ 304 เพนซ์
หุ้นเยลล์ กรุ๊ป ดิ่งลง 20 เพนซ์ ปิดที่ 147 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว เนื่องจากภาระหนี้สินของเยลล์ กรุ๊ป อยู่ในระดับที่สูงและทำให้บริษัทตกอยู่ในความเสี่ยง ส่วนหุ้นโวลส์ลีย์ดิ่งลง 49 เพนซ์ ปิดที่ 483 เพนซ์ หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรลดลง 29.4%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ