นายรักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ กลยุทธ์และความยั่งยืน บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 65 จะเติบโตราว 5-7% ตามคาดการณ์ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะเติบโตในระดับเดียวกันที่ 5-7% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และ ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการเกี่ยวกับการเดินทางเข้าประเทศช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัว และทำให้กำลังซื้อฟื้นตัวตามไปด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขาย ได้แก่ งานอิเล็กทรอนิกส์ แฟร์ 2565 ที่เมืองทางธานี และ งาน Homepro Day, งาน Homepro Super Expo วันที่ 2-6 เม.ย.65 ที่ผ่านมาถือว่าได้ผลตอบรับที่ดีต่อเนื่องทั้งยอดขายหน้าร้าน และช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมามาตรการภาครัฐที่กระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนผ่านโครงการต่างๆ ก็ถือว่าช่วยสนับสนุนยอดขายของบริษัทได้เป็นอย่างดี
สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/65 คาดว่าจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/65 จากกำลังซื้อของประชาชนที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการกลับของกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ช่วยหนุนให้กำลังซื้อฟื้นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าปรับอากาศ
"หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมา การท่องเที่ยวฟื้นตัว และกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ช่วยให้ยอดขายของบริษัทเติบโตมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องระมัดระวังและติดตามอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นมาอาจจะเข้ามากระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนได้"นายรักพงศ์ กล่าว
ในปีนี้บริษัทวางงบลงทุน 5,000-6,000 ล้านบาท เพื่อใช้ปรับปรุงสาขาเดิมและซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาสาขาใหม่ในอนาคต รวมไปถึงการขยายสาขาโฮมโปรในประเทศ 2 สาขา และขยายสาขาเมกาโฮมอีก 5 สาขาในช่วงครึ่งปีหลัง โดยคาดว่า ณ สิ้นปี 65 จะมีสาขาโฮมโปร 88 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด, เมกาโฮม 19 สาขา, โฮมโปร เอส ในประเทศ 7 สาขา และ โฮมโปร มาเลเซีย 7 สาขา