นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อปี 65 เติบโต 4-6% ซึ่งมาจากการประเมินเศรษงกิจไทยในปี 65 ที่เติบโต 3-4%
ทั้งนี้ สินเชื่อที่ BBL ตั้งเป้าหมายการเติบโตสูงสุด คือ กลุ่มสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ที่ตั้งเป้าเติบโต 4-6% สินเชื่อรายย่อยเติบโต 4-6% และสินเชื่อเอสเอ็มอีเติบโต 1-3% แม้ว่าในช่วงไตรมลส 1/65 ที่ผ่านมาภาพรวมสินเชื่อยังทรงตัวจากสิ้นปี 64 แต่เป็นเพราะธนาคารยังไม่ได้เน้นการกลับมาปล่อยสินเชื่อมากนัก เพื่อรอดูสถานการณ์ต่าง ๆ รอบด้านก่อน และในทางกลับกันลูกค้าก็กลับมาชำระเงินคืนเป็นจำนวนมากเช่นกัน แต่ก็ทำให้เห็นแนวโน้มที่ดีของความสามารถในการชำระหนี้ที่ฟื้นตัวดีขึ้น
ขณะที่ในช่วงตั้งแต่ไตรมาส 2/65 คาดว่าจะเริ่มเห็นการเติบโตของสินเชื่อกลับมามากขึ้น แต่มองว่าว่าจะชัดเจนขึ้นอีกในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาได้ดีขึ้น หลังจากภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา และการท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาได้ดีขึ้นเมื่อมีการเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับการตั้งสำรองของ BBL ในปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ตั้งสำรองไป 3.1-3.4 หมื่นล้านบาท พร้อมกับการควบคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้มีเป้าหมายจะไม่ให้เกิน 4% จากไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 3.3% โดยการที่ธนาคารตั้งสำรองและทิศทางของ NPL ที่จะลดลง มาจากคุณภาพลูกค้าดีขึ้น และเงินสำรองของธนาคารอยู่ในระดับสูง
ด้านธุรกิจธนาคาร Permata ในอินโดนีเซียที่ BBL เข้าไปลงทุนนั้น ยังมีผลการดำเนินงานที่ดี จากเศรษฐกิจอินโดนีเซียที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก ความต้องการสินเชื่อของลูกค้าที่จะลงทุนมีมากขึ้น ซึ่งธนาคารพร้อมสนับสนุนวงเงินให้กับลูกค้าที่จะลงทุนในอินโดนีเซียและลูกค้าไทยที่จะไปลงทุนในอินโดนีเซีย
นายชาติศิริ ยังกล่าวถึงกระแสการจัดตั้งธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ (AMC) เพื่อการบริหารจัดการหนี้ว่า BBL ยังสามารถบริหารจัดการหนี้ได้ แต่ก็ไม่ได้ปิดโอกาสการจัดตั้ง AMC ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางที่ธนาคารศึกษาอยู่ แต่ก็ยังมีแนวทางอื่นๆที่ธนาคารก็พิจารณาด้วยเช่นกัน