ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,629.58 จุด ลดลง 13.72 จุด (-0.83%) มูลค่าการซื้อขาย 72,642.09 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้เคลื่อนไหวผันผวนอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีขึ้นไปทำระดับสูงสุด 1,634.65 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,617.94 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 372 หลักทรัพย์ ลดลง 1,524 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 335 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยนักลงทุนกลับมากังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.50% ในการประชุมเดือน มิ.ย.หลังจากทิศทางเงินเฟ้อที่ยังคงมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามราคาน้ำมัน
ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีแรงขายสินทรัยพ์เสี่ยงออกมา
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดว่า นักลงทุนจะเพิ่มความระมัดระวัง และเน้นการลงทุนหุ้นรายตัวตามผลประกอบการที่ทยอยออกมา พร้อมกับติดตามความคืบหน้าของทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐและแผนการลดงบดุล รวมถึงเงินทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเข้ามาช่วยหนุนกลุ่มส่งออก และการท่องเที่ยวที่ภาครัฐมีความพยายามเปิดประเทศมากขึ้น เชื่อว่าจะช่วยพยุงดัชนีไว้ได้ระดับหนึ่ง
ให้แนวรับที่ 1,600-1,620 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,117.03 ล้านบาท ปิดที่ 113.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,075.77 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,043.51 ล้านบาท ปิดที่ 12.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,965.14 ล้านบาท ปิดที่ 85.25 บาท ลดลง 1.75 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,776.39 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท ลดลง 0.75 บาท