บมจ.ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (FTI) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 130 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ที่ราคาหุ้นละ 2.50 บาท เปิดให้จองซื้อในวันที่ 11-13 พ.ค.65 โดยมีที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ส่วนผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 4 แห่ง ประกอบด้วย บล.เอเชีย เวลท์ จำกัด, บล.โนมูระ พัฒนสิน, บล.กรุงศรี และ บล. บียอนด์
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้น FTI คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค / ของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน (Home) ในวันที่ 19 พ.ค. ใช้ชื่อย่อ FTI
ทั้งนี้ FTI ประกอบธุรกิจนำเข้า ประกอบผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำ (Water Treatment) ครบวงจร ซึ่งราคาเสนอขายหุ้น IPO ของ FTI ที่หุ้นละ 2.50 บาท คิดเป็นค่า P/E Raito ที่ 30.92 เท่า ซึ่งเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน
"การกำหนดราคา IPO ที่ 2.50 บาท ถือเป็นระดับที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีความน่าสนใน เนื่องจาก FTI มีจุดเด่นในฐานะที่เป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำอย่างครบวงจรทั้งในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ ทั้งหมดจำนวน 23 แบรนด์ และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจมานานกว่า 25 ปี ขณะที่ฐานะทางการเงินมีความแข็งแกร่ง และอนาคตมีโอกาสเติบโตตามแนวโน้มการใช้น้ำประปาและจำนวนผู้ใช้น้ำประปาในประเทศ บริษัทจึงมีฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าการโรดโชว์ที่ผ่านมานักลงทุนให้การตอบรับอย่างดี ทำให้มั่นใจว่าหุ้น FTI จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนเช่นกัน" นายวิชา กล่าว
ด้านนายวิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FTI เปิดเผยว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ในการขยายตัวแทนจำหน่าย ภายในปี 65-67 ได้แก่ การขยายร้าน Aquatek จำนวน 50 สาขา ,ขยายร้าน Water Store จำนวน 5 สาขา ,เพื่อใช้ในการตกแต่งอาคารจัดแสดงสินค้าและจัดจำหน่ายสินค้าใหม่ และใช้ในการปรับปรุงอาคารคลังสินค้าในปี 65-66 ได้แก่ ปรับปรุงขยายพื้นที่คลังสินค้าและลงทุนในระบบการจัดการคลังสินค้า และติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ รวมถึงใช้ขยายกำลังการผลิตประกอบ ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัท ให้มีความแข็งแกร่งและมีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคต โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 25-30%
"การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นจากเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น และเป็นการเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต พร้อมๆ กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการให้กับลูกค้า ยกระดับศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำอย่างครบวงจร และสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในระดับที่ดีได้ต่อเนื่อง" นายวิกร กล่าว