(เพิ่มเติม) MJDคาดปี 51 ทุ่มหมื่นลบ.ทำโครงการใหม่ทั้งร่วมทุน-พัฒนาเองเน้นคอนโดฯหรู

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 18, 2008 12:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ (MJD) คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 1 หมื่นล้านบาทในการพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้ โดยโครงการแรกเป็นการร่วมทุนกับเอไอจี โกลบอล เรียล เอสเตท ภายใต้ บริษัท เอ็มเจเอไอ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด โครงการ รอยซ์ ไพรเวท เรสซิเดนท์ส (Royce Private Residences) ย่ายสุขุมวิท 31 
ส่วนอีกสองโครงการจะพัฒนาเองเน้นโครงการคอนโดมิเนียมระดับหรูในจังหวัดท่องเที่ยว เพราะมองว่าตลาดยังมีศักยภาพเติบโตได้สูง ทั้งในพัทยาและหัวหินที่จะมีการเปิดตัวโครงการในเดือนเม.ย.นี้ รวมมูลค่า 6 พันล้านบาท
นายสุริยน พูลวรลักษณ์ MJD กล่าวว่า เงินลงทุนใช้ทำโครงการใหม่ปีนี้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทจะใช้ในโครงการที่พัทยา หัวหิน และโครงการรอยซ์ฯ ที่ร่วมทุนกับ AIC Investment ซึ่งเป็นโครงการคอนโดฯระดับพรีเมี่ยม คาดว่าโครงการนี้จะใช้เงินลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนโครงการแรกของบริษัท
อนึ่ง โครงการนี้ รอยซ์ฯ หลังจากที่ได้เปิดขายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สามารถขายได้กว่า 30% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด 165 ยูนิต ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้บริหารระดับสูงและนักลงทุนต่างประเทศ โดยสัดส่วนการเข้าซื้อเป็นคนไทยและต่างประเทศอย่างเท่าๆกัน โครงการดังกล่าวคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30-35% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปี 50 และคาดว่าปีนี้จะพยายามรักษาให้อยู่ในระดับนี้
แต่อย่างไรก็ตาม โครงการนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แต่ก็มั่นใจว่าน่าจะได้รับการอนุมัติในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากศึกษาโครงการและกฎหมายมาเป็นอย่างดีแล้ว
นายสุริยน กล่าวว่า ในปี 51 บริษัทคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้สูงกว่า 2.2 พันล้านบาทในปี 50 โดยขณะนี้มีงานในมือ(Backlog) 3.7 พันล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปี 51-52
และปีนี้มีแผนจะเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการในช่วงเดือนเม.ย.ที่หัวหินและพัทยา โดยที่หัวหินเป็นคอนโดฯระดับหรู ราคาขาย 1.3-1.4 แสนบาท/ตารางเมตร ถือว่าถูกสุดในพื้นที่หัวหิน อีกทั้งยังมีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างจึงน่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เช่นเดียวกับโครงการที่พัทยา ซึ่งจะเป็นคอนโดฯระดับทรู ราคาขาย 1.2 แสนบาท/ตารางเมตร ทั้งสองโครงการมีจำนวนรวม 400-500 ยูนิต
นายสุริยน กล่าวถึงปัญหาซับไพร์ม ไม่น่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของต่างประเทศ เพราะเราเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ได้รับผลกระทบและที่ผ่านมาก็ได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างดี
สำหรับกฎหมายการลดหย่อนภาษีการโอนน่าจะช่วยเร่งให้มีการโอนเพิ่มมากขึ้น โดยโครงการที่คาดว่าจะรับรู้ยอดการโอนในปีนี้ คือ วอเตอร์มาร์ค, WIND รัชโยธิน, แมนฮัตตัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ