นายวีระ นพวัฒนากร ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.ซันสวีท (SUN) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการไตรมาส 2/65 จะเติบโตได้มากกว่าช่วงไตรมาส 1/65 ที่มีรายได้ 700 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝนส่งผลให้ผลผลิตข้าวโพดที่เข้าสู่โรงงานปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้การใช้กำลังการผลิตปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
ขณะที่บริษัทยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าญี่ปุ่นและไต้หวันในกลุ่มสินค้ากระป๋อง ทั้งลูกค้ารายใหม่ และลูกค้ารายเดิมที่กลับมาซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น จึงเข้ามาทดแทนการชะลอรับสินค้าในกลุ่มลูกค้ากลุ่มตะวันออกกลาง สหภาพยุโรป และ สหรัฐ เนื่องจากค่าขนส่งยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย 10-15% โดยจะเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง ทั้งภูมิภาคเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน และ จีน เป็นต้น เพื่อลดผลกระทบจากค่าขนส่งที่ยังทรงตัวสูงในเส้นทางตะวันออกกลาง สหภาพยุโรป และ สหรัฐ
นอกจากนี้ บริษัทจะเร่งออกสินค้าใหม่ในกลุ่มสินค้าอาหารพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) เพื่อกระตุ้นยอดขายมากขึ้น จากปัจจุบันบริษัทได้นำสินค้าวางจำหน่ายกว่า 10 รายการ อาทิ ข้าวโพดหวานต้ม มันหวานญี่ปุ่นเผา มันม่วงญี่ปุ่นเผา และ ข้าวโพดหวานย่างเกลือหั่นท่อน เป็นต้น โดยบริษัทยังคงมั่นใจว่าจะมีคำสั่งซื้อรวมที่ 100,000 ชิ้น/วัน หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย และ ภาครัฐได้ผ่อนคลายมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่จะเข้ามาช่วยหนุนการบริโภคในประเทศ
"แม้ว่าต้นทุนการผลิตจะปรับตัวสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามบริษัทได้เน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่มีศักยภาพ และพัฒนาให้ผลผลิตต่อไร่มากขึ้น ในขณะเดียวกันยังคงเดินหน้าปรับราคาขายให้สะท้อนต้นทุนที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น และยังรับแรงหนุนจากค่าเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่องด้วย เราจึงยังคงมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 10-15%"นายวีระ กล่าว