บมจ.เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ (KC) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อนุมัติให้หลักทรัพย์ KC พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน โดยปลดเครื่องหมาย SP (Suspension) (ห้ามซื้อขายหุ้นนั้นเป็นการชั่วคราว) และ NC (Non compliance) (หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน) และให้เริ่มซื้อขายหลักทรัพย์ KC ในตลาดหลักทรัพย์ (SET) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.นี้เป็นต้นไป
นายสันติ ปิยะทัต กรรมการผู้จัดการ KC กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นคำขอพ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน และขอให้เปิดซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (SET) โดยได้ดำเนินการแก้ไขเหตุอาจถูกเพิกถอน และดำเนินการให้มีคุณสมบัติ เพื่อกลับมาซื้อขายครบถ้วนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตลท.ขึ้นเครื่องหมาย C หลักทรัพย์ KC โดยให้มีการซื้อด้วยบัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance) กล่าวคือ ผู้ซื้อต้องชำระเงินทั้งจำนวนก่อนการซื้อหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันแรกที่มีการซื้อขายจนกว่างบการเงินของบริษัท จะแสดงให้เห็นว่า ส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทมีค่าตั้งแต่ 50% ของทุนชำระแล้ว
อนึ่ง ตลท.จะไม่กำหนดราคาซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) ของหลักทรัพย์ KC ในวันที่ 19 พ.ค.65 ซึ่งเป็นวันแรกที่มีการซื้อขาย อย่างไรก็ดี หากในวันที่ 19 พ.ค.65 ไม่มีการซื้อขายหุ้น KC ตลท.ก็จะยังคงไม่มีการกำหนด Ceiling & Floor ต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีการซื้อขายหุ้น KC แล้ว และเมื่อได้มีการซื้อขายหุ้น KC แล้ว ในวันทำการถัดไป Ceiling & Floor ของหุ้น KC จะถูกปรับให้เป็นไปตามเกณฑ์ปกติ
ทั้งนี้ ตลท.จะนำหลักทรัพย์ KC มารวมในการคำนวณดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ในวันทำการถัดไป นับจากวันที่มีการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าววันแรก
นายสันติ กล่าวเสริมอีกว่า บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นในการลงทุนและพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง และสร้างการรับรู้ใหัแก่กลุ่มลูกค้าและนักลงทุน โดยเริ่มจากการปรับโฉมแบรนด์ใหม่ (รีแบรนด์) ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งอนาคต ที่ให้ความมั่นคง ทันสมัย ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขยายฐานลูกค้า หลังประสบความสำเร็จในตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบที่เน้นคุณภาพ และราคาคุ้มค่ามาเกือบ 3 ทศวรรษ
โดยจุดยืนที่ปรับเปลี่ยนใหม่ จะทำให้แบรนด์ เค.ซี.พร็อพเพอร์ตตี้ มีบุคลิกทันสมัยมากขึ้น กระฉับกระเฉง มั่นคง วางใจได้ และสื่อถึงการเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่ทันสมัย แต่จับต้องได้ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ และตอบสนองต่อทุกกลุ่มเป้าหมายทุกเจนเนอเรชั่น ไม่ว่าจะเป็น Gen X, Y, Z, Millennials หรือ Baby Boomer
ปัจจุบัน KC มีโครงการแนวราบที่มีคุณภาพ รองรับความต้องการของลูกค้าในเบื้องต้น 4 โครงการ ได้แก่
1. โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ เค.ซี. เนเชอรัลวิลล์ บางนา-เทพารักษ์ สำหรับครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ ที่มีผู้สูงอายุ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 8.9 ล้านบาท ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเจนเนเรชัน X, Y ที่ต้องการความคุ้มค่ารวมถึงเนื้อที่ขนาดใหญ่ ความสะดวกสบายครบครัน การอยู่อาศัยพร้อมหน้าครอบครัว อบอุ่น ปลอดภัยและใกล้ชิดกับธรรมชาติ
2. โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น แพลทฟอร์ม ออคิด พาร์ค ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวขนาดกลาง เหมาะทั้งครอบครัวที่มีคนหลากหลายเจนเนเรอชัน และที่ต้องการความสะดวกสบาย ในราคาเพียง 3.7-6 ล้านบาท
3. โครงการ เค.ซี. สุวินทวงศ์2 เน้นครอบครัวขนาดเล็กในรูปแบบบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ราคาเริ่มต้น 2.4 ล้านบาท และอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เริ่มต้นที่ 3.5 ล้านบาท สำหรับคนอยากมีบ้านหลังใหม่ สามารถอยู่อาศัยได้ทุกวัยและตอบโจทย์ชีวิตสู่การดำเนินธุรกิจที่คล่องตัว บนทำเลระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
และ 4.โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น เค.ซี. คลัสเตอร์ นิมิตใหม่ ที่เป็นทางเลือกให้คนทุกเจนเนเรอชัน ที่อยากมีบ้านที่ทันสมัย เป็นครอบครัวเดี่ยวขนาดเล็กหรือบ้านที่มีความเป็นส่วนตัว สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่เน้นความสะดวกทั้งการทำงาน ประกอบธุรกิจหรืออาชีพอิสระและการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคดิจิทัล ในราคาไม่ถึง 2 ล้านบาท (1.39-1.8 ล้านบาท)
"บริษัทมีความแข็งแกร่ง และความพร้อมที่จะเข้าเทรดเข้าตลาด 100% ด้วยรากฐานในปัจจุบันของบริษัทที่มีความมั่นคงเป็นอย่างมาก และบริษัทฯ จะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะกลับมาสู่ผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยของไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย ตลอดระยะเวลา 39 ปีที่ผ่านมา เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ ยึดมั่นในการพัฒนาบ้านที่มีคุณภาพ คุ้มค่า ใส่ใจในรายละเอียดเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสะดวกสบาย และปลอดภัย ใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าทุกระดับ"นายสันติ กล่าว