ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าปรับลงต่อเนื่องกว่า 22 จุด หลังหลุดระดับ 1,600 จุด ตามตลาดต่างประเทศ จากแรงขายหุ้นใหญ่ จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือน เม.ย. พุ่ง 8.3% มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์
เมื่อเวลา 10.04 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,599.86 จุด ลดลง 13.48 จุด (-0.84%)
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.11 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,590.99 จุด ลดลง 22.35 จุด (-1.39%)
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงไปกว่า 10 จุด หลุดระดับ 1,600 จุด อีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ของสหรัฐที่ออกมาเมื่อคืนนี้สูงกว่าที่ตลาดคาด หรือออกมา 8.3% จากคาด 8.1% จึงส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นลบทันที อีกทั้งยังมีการบังคับขายในบัญชีมาร์จิ้นด้วย
ประกอบกับการร่วงลงอย่างหนักของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ทำให้นักลงทุนเป็นกังวลว่าจะลามมาถึงตลาดหุ้นหรือไม่ โดยวานนี้เหรียญ TerraUSD (UST) ราคาหลุดมูลค่าที่ตรึงได้ไว้กับเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เหรียญ Terra Luna ซึ่งคอยค้ำมูลค่าของ UST ร่วงลงอย่างหนัก กดดันภาพรวมตลาดคริปโทฯ
อย่างไรก็ตามมองว่าปัจจัยดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นจำกัด เนื่องจากตลาดหุ้นมีนักลงทุนสถาบันอยู่ค่อนข้างมาก ต่างจากตลาดคริปโทฯ ที่ส่วนใหญ่เป็นรายย่อย
ให้แนวรับ 1,580-1,595 จุด และแนวต้าน 1,610 จุด และให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีในไตรมาส 2/65 ไว้ที่ 1,540-1,730 จุด โดยการปรับตัวลงต่ำกว่า 1,600 จุด ถือเป็นระดับที่น่าสนใจ เนื่องจากอยู่ในโซนที่ไม่แพงเกินไป