ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,584.38 จุด ลดลง 0.14 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 75,432.41 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้รีบาวด์ขึ้นในช่วงเช้า ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทรงตัวจากวันก่อนหน้า โดยดัชนีขึ้นไปทำระดับสูงสุด 1,597.58 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,578.11 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 920 หลักทรัพย์ ลดลง 872 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 442 หลักทรัพย์
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ทรงตัวจากวันก่อนหน้า หลังจากช่วงเช้ารีบาวด์ขึ้นทางเทคนิค โดยนักลงทุนยังคงติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะออกมาทั้งหมดในสัปดาห์หน้า และตัวเลข GDP ไตรมาส 1/65 ของประเทศไทย
โดยมองว่าหากดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 1,580 จุด ได้มีโอกาสที่สัปดาห์ดัชนีจะรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตามมองว่าไปได้ไม่ไกล เนื่องจากปัจจัยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการใช้นโยบายทางการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางต่างๆทั่วโลกจะยังคงกดดันอยู่ต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 2-3 เดือน
"ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้ามีโอกาสที่จะรีบาวด์ทางเทคนิคได้ แต่ยังไปได้ไม่ไกลเนื่องจากยังมีปัจจัยการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด และ การเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆ โดยเฉพาะเฟดที่จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยแน่นอน 0.50% ในการประชุมครั้งถัดไป โดยในระยะต่อไปมีโอกาสที่จะปรับฐานลงได้อีก เพราะเมื่อเทียบแล้วตลาดไทยยังลงมาไม่เยอะเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ"นายวีระวัฒน์ กล่าว
พร้อมให้แนวรับที่ 1,580 จุด และแนวต้าน 1,595-1,600 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,570.15 ล้านบาท ปิดที่ 27.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
JMT มูลค่าการซื้อขาย 2,444.92 ล้านบาท ปิดที่ 68.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,981.37 ล้านบาท ปิดที่ 24.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,940.36 ล้านบาท ปิดที่ 46.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
CRC มูลค่าการซื้อขาย 1,898.89 ล้านบาท ปิดที่ 35.50 บาท ลดลง 1.25 บาท